ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เหตุการณ์ Halving กำลังมาถึงได้สร้างกระแสและความสนใจจากชุมชนคริปโตเคอร์เรนซีเป็นอย่างมาก ในขณะที่มีการตั้งคำถามถึงอุตสาหกรรมการขุด Bitcoin ถึงการใช้พลังงานที่สูงและการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
โดยเหตุการณ์ Bitcoin Halving ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะเป็นปรากฏการณ์ที่รางวัลในการขุดบล็อก Bitcoin นั้นจะลดลงครึ่งหนึ่งจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะผลักดันให้ราคาเหรียญเพิ่มขึ้น แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อนักขุดโดยตรง
เพราะการกระทำดังกล่าวส่งผลให้อัตราแฮช Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อการทำกำไรของนักขุดโดยตรง และอาจทำให้พวกเขาต้องรับภาระทางด้านต้นทุนมากขึ้น และอาจส่งผลให้มลภาวะทางอากาศรุนแรงขึ้นได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดจาก Matteo Greco นักวิเคราะห์การวิจัยของ Fineqia International เผยว่า ในตอนนี้นักขุด Bitcoin กำลังมองหาแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น เพื่อที่จะทำให้พวกเขาสามารถรักษาต้นทุนเอาไว้ได้
“พลวัตนี้บังคับให้บริษัทขุดเหมืองเพิ่มประสิทธิภาพด้านเงินทุน และแสวงหาแหล่งไฟฟ้าที่มีราคาถูกลง ซึ่งนำไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นในการขุด Bitcoin”
ในขณะเดียวกัน รายงานของ Bitcoin ESG Forecast ในปี 2024 เผยว่ากว่า 54.5% ของการใช้พลังงานในเครือข่าย Bitcoin นั้นได้หันไปขับเคลื่อนด้วยแหล่งพลังงานหมุนเวียนตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
โดยสาเหตุที่นักขุดหันไปใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นนั้น Daniel Batten หุ้นส่วนผู้จัดการของบริษัทด้านสิ่งแวดล้อมอย่าง CH4 Capital ได้ออกมาเปิดเผยว่าระบบกลไกการขุด Bitcoin จะกระตุ้นให้นักขุดหันไปใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหลักที่เครือข่ายหันไปใช้พลังงานยั่งยืนมากขึ้น
“กลไกการให้รางวัลการขุด BTC โดยธรรมชาติแล้ว จะเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การเพิ่มความปลอดภัยของเครือข่าย ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และส่งเสริมการวิจัยเกี่ยวกับวิธีการยืนยันบล็อกที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น”
การขุด Bitcoin ในจีน: เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นหลังจากการสั่งแบนการขุดภายในประเทศ
อีกสิ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดในอุตสาหกรรมการขุด Bitcoin นั้น คือการที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการขุดคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของอัตราแฮช Bitcoin ทั่วโลก ได้หันไปใช้พลังงานสะอาดมากยิ่งขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากรัฐบาล
“ไม่มีการขุดถ่านหินนอกโครงข่ายเกิดขึ้นอีกต่อไป เพราะมันตรวจพบได้ง่ายเกินไป เนื่องจากการแย่งชิงพลังงานพื้นฐานมันเป็นขัดขวางเป้าหมายการปล่อยก๊าซของรัฐบาลกลาง สิ่งนี้ส่งผลให้ความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลังการห้ามทำเหมืองของจีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
และเพื่อป้องกันการตรวจเจอ นักขุดในจีนแผ่นดินใหญ่ส่วนใหญ่หันไปพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าอย่างเช่นพลังน้ำเป็นหลัก ซึ่งมีราคาถูกกว่ามากในช่วงเดือนที่มีฝนตกในสี่ภูมิภาคหลังอย่างซีอาน อู่ฮั่น ปักกิ่ง และซีหนิง
สุดท้ายนี้ Batten wfhตั้งข้อสังเกตว่า นักขุดรายย่อยจำนวนมากกำลังขุด Bitcoin อยู่ในตอนนี้กำลังขาดทุน ทว่าส่วนใหญ่นั้นยอมรับได้เพราะเป้าหมายหลังพวกเขาคือการได้ออกจากระบบการเงินของประเทศจีน
“พวกเขาแปลงเงินหยวนจีนเป็น ASICS และไฟฟ้าซึ่งสร้าง BTC ซึ่งจะถูกแปลงเป็น USD อย่างไรก็ตามผู้ค้าปลีกจำนวนมากยินดีที่จะรับผลกระทบจากการทำกำไรเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะมีวิธีในการแปลงเงินหยวนเป็น USD”
ที่มา: Cointelegraph