ในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา (15 พฤษภาคม) ราคา Bitcoin ได้มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ $61,000 ขึ้นมาจนถึง $66,000 ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
สำหรับสาเหตุที่ทำให้วันนี้ราคา Bitcoin มีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลมาจากแถลงการณ์ของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่ได้ประกาศตัวเลขดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.3% ส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นตามและกลับไปยังระดับราคาเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนได้สำเร็จ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มให้ความมั่นใจใน Bitcoin มากขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ดัชนีค่า CPI-U ย่อมาจาก Consumer Price Index for Urban Consumers หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภคสำหรับผู้บริโภคในเมือง เป็นดัชนีชี้วัดที่ใช้ติดตาม การเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ที่ครัวเรือนผู้บริโภคในเขตเมืองใช้จ่าย ซึ่งทางรายงานได้ระบุว่าดัชนีดังกล่าวอยู่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์เคยคาดการณ์ไว้ที่ 0.4%
จากข้อมูลล่าสุดพบว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ปัจจุบันลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี สัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็วๆ นี้
แม้ว่าราคา Bitcoin จะเผชิญกับการปรับฐานและหยุดชะงักลง ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่การเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI-U) ซึ่งแสดงถึงอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ได้กลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้นักลงทุนกลับมามีความคาดหวังต่อ Bitcoin อีกครั้ง
ขณะที่รายงานราคา Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ $66,054 ลดลงมาเล็กน้อยจากจุดสูงสุดที่ $66,666 แต่ทั้งนี้ราคายังคงพุ่งสูงกว่า 7.12% ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อ้างอิงข้อมูลจาก Coinmarketcap
ที่มา : Forbes