รายงานจาก Presto Research ระบุว่า แรงเทขายของ Bitcoin Cash (BCH) และสภาพคล่องที่ต่ำ คือปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามอง เมื่อ Mt. Gox เริ่มกระบวนการคืนเงินให้แก่ลูกค้า
หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Presto Labs ระบุในบันทึกของการวิเคราะห์ว่า ความกังวลที่ว่าแรงเทขายจากกระบวนการคืนเงินของกองทุน Mt. Gox จะส่งผลทำให้ราคาของ Bitcoin (BTC) ลดลงนั้นเกินจริง แต่สำหรับ Bitcoin Cash (BCH) สถานการณ์นี้อาจส่งผลกระทบในแง่ร้ายได้
ตามรายงานของ CoinDesk เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin ลดลงอีกครั้ง โดยร่วงลงไปต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์ พร้อมกับมีการขายทิ้งสินทรัพย์ (liquidations) มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านดอลลาร์ในช่วงเปิดตลาดเอเชีย
นอกเหนือจาก Bitcoin (BTC) มูลค่าประมาณ 9.5 พันล้านดอลลาร์ ที่ Mt. Gox จะคืนให้แก่ลูกค้า ยังมี Bitcoin Cash (BCH) จำนวน 143,000 เหรียญ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 73 ล้านดอลลาร์ ที่จะถูกส่งคืนด้วย
ข้อมูลจาก CoinGecko ชี้ว่า ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin Cash ต่อวันอยู่ที่ 308.8 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นการคืน Bitcoin Cash ครั้งนี้ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 24% ของปริมาณการซื้อขายรายวัน
บทวิเคราะห์ของ Peter Chung จาก Presto Labs ระบุว่า “แรงกดดันการเทขายของเหรียญ Bitcoin Cash (BCH) น่าจะมีมากกว่า Bitcoin (BTC) ถึง 4 เท่า” โดยอ้างอิงข้อมูลการคืน Bitcoin Cash คิดเป็น 24% ของปริมาณการซื้อขายรายวัน ขณะที่การคืน BTC คิดเป็นเพียง 6% ของปริมาณการซื้อขายรายวัน ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ว่า ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin Cash ต่อวันมี 1/50 ของ BTC
ในบทสัมภาษณ์ Peter Chung คาดการณ์ว่า แรงเทขายของ Bitcoin (BTC) น่าจะมีน้อย เนื่องจากผู้ที่ต้องการขาย น่าจะขายสิทธิ์การรับเงินคืนในตลาดรองไปแล้ว
ในช่วงแรกของการล้มละลายของ FTX นักเทรดจำนวนมาก ที่มองว่า โอกาสที่จะได้รับเงินคืนจากกระบวนการล้มละลายอย่างรวดเร็วมีน้อย จึงได้เลือกที่จะขายสิทธิ์การรับคืนของพวกเขาไปในตลาดรอง
Peter Chung กล่าวว่า “เจ้าหนี้มืออ่อน น่าจะทยอยขายออกไปหมดแล้วตลอดสิบปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการประมูลสิทธิ์การรับคืนอย่างเข้มข้นจากกองทุนสินทรัพย์ของบริษัทที่ล้มละลาย ดังนั้นเราพอจะสรุปได้อย่างปลอดภัยว่า เจ้าหนี้กลุ่มปัจจุบันน่าจะเป็นผู้ถือ BTC ระยะยาว”
Peter Chung กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับเหรียญ BCH จาก Mt. Gox จะทำเหมือนกับได้รับ airdrop และเทขายทันที เนื่องจาก Bitcoin Cash เกิดจากการแยกเครือข่าย (fork) ของ Bitcoin (BTC) ถึงสามปีหลังจาก Mt. Gox ล้มละลาย
เขากล่าวต่อว่า “เจ้าหนี้ไม่เข้าใจจุดยืนของ Bitcoin Cash (BCH)”
บทวิเคราะห์จาก Peter Chung ระบุว่า กลยุทธ์การถือครองสัญญา perpetuate long ของ Bitcoin (BTC) ควบคู่กับการถือครองสัญญา perpetual short ของ Bitcoin Cash (BCH) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ และเป็นกลางกับตลาดมากที่สุด สำหรับการแสดงมุมมอง ที่ว่าราคา Bitcoin (BTC) น่าจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาของ Bitcoin Cash (BCH) น่าจะลดลง หากไม่นับรวมความเสี่ยงจากอัตราเงินทุน (funding rate)
ในขณะที่รายงาน ราคา BCH มีการซื้อขายอยู่ที่ 323.00 ดอลลาร์ ลดลง 10.52% อ้างอิงตามข้อมูลจาก coinmarketcap
ที่มา : coindesk