ในเช้าวันนี้ (4 สิงหาคม) ดัชนี The Crypto Fear and Greed Index ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 จากที่เมื่อวานทำคะแนนอยู่ที่ 37 คะแนน มาในวันนี้ได้ลดลงต่ำกว่าเดิมที่ 34 คะแนน ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำทึ่สุดในรอบสามอาทิตย์
นอกเหนือจากนี้ความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจจะต้องกลับมาเผชิญวิกฤติ recession อีกครั้งได้ส่งผลให้ตลาดเกิดความหวาดกลัว จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้ราคา Bitcoin ร่วงอย่างรุนแรงทะลุ $60,000 ในช่วงเช้ามืด
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ นั้นจะไม่เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก โดยมีการสร้างงานใหม่เพียง 114,00 งาน ขณะที่มีคนว่างงานถึง 175,000 คน มากที่สุดนับตั้งแต่ ตุลาคม 2021 ขณะที่ทาง FED จะยังคงไม่ทบทวนเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยไปจนกว่าเดือนกันยายน ทำให้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดการณ์ว่าสภาวะเศษฐกิจของสหรัฐฯ นั้นย่ำแย่กว่าที่เห็น
ทั้งนี้ทาง Santiment แพลตฟอร์มวิเคราะห์ชื่อดังได้ระบุว่าราคา Bitcoin อาจจะฟื้นกลับขึ้นมาในเร็ว ๆ นี้หลังจากที่ทำผลงานได้ไม่เป็นที่น่าพอใจ
Santiment รายงานว่า อัตราส่วน MVRV (Market Value to Realized Value) ซึ่งวัดกำไรหรือขาดทุนเฉลี่ยของผู้ถือครอง Bitcoin ปัจจุบันอยู่ที่ติดลบ 5.5% ซึ่งข้อมูลตามประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่า ระดับต่ำเช่นนี้มักนำไปสู่การพุ่งขึ้นของราคา พวกเขากล่าวว่า Bitcoin เคยพุ่งขึ้น 7% และ 9% ในสองครั้งก่อนหน้า (วันที่ 4 และ 25 กรกฎาคม) เมื่อ MVRV ต่ำลงมาอยู่ที่ระดับนี้
ส่วนเหรียญ altcoin ต่าง ๆ เช่น Ethereum, Cardano, Ripple, Dogecoin นั้นก็กำลังส่งสัญญาณ undervaluation หรือการที่มีมูลค่าที่แท้จริงสูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดในปัจจุบัน เช่นกันหากมองที่อัตราส่วน MVRV
อย่างไรก็ตามแม้ Santiment จะมีความเชี่ยวชาญแต่ข้อมูลในอดีตไม่สามารถทำนายอนาคตได้แม่นยำเสมอไป
ที่มา : Cryptobriefing