<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคเตือนภัย โฆษณาคริปโตบน Facebook ครึ่งหนึ่งหลอกลวง ละเมิดนโยบาย Meta

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หน่วยงานกำกับดูแลคุ้มครองผู้บริโภคของออสเตรเลียเปิดเผยว่า โฆษณาเกี่ยวกับคริปโตบน Facebook มากกว่าครึ่งหนึ่งที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว เป็นการหลอกลวงหรือละเมิดนโยบายของ Meta

คณะกรรมการแข่งขันและผู้บริโภคออสเตรเลีย (ACCC) ได้ฟ้อง Meta ในปี 2022 เกี่ยวกับโฆษณาหลอกลวงที่ใช้ชื่อเสียงของบุคคลดัง โดยกล่าวหาว่า บริษัทได้กระทำการอันเป็นเท็จ หลอกลวง หรือทำให้เข้าใจผิดในการเผยแพร่โฆษณา และสนับสนุนให้ผู้โฆษณากระทำพฤติกรรมอันเป็นเท็จดังกล่าว

จากคำตัดสินที่ออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ACCC กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 “Meta ตระหนักดีว่า โฆษณาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากบนแพลตฟอร์ม Facebook ได้ใช้การโปรโมตที่หลอกลวงหรือทำให้เข้าใจผิด”

ศาลได้ฟังการวิเคราะห์เบื้องต้นเกี่ยวกับโฆษณาคริปโตเคอร์เรนซีโดย ACCC ซึ่งเปิดเผยให้เห็นว่า 58% ของโฆษณาและหน้า Landing Page ของโฆษณาเหล่านั้นละเมิดนโยบายการโฆษณาของ Meta หรืออาจเกี่ยวข้องกับการหลอกลวง

เซเลบคนดังที่ถูกนำมาใช้อย่างผิดกฎหมายในการโฆษณาเพื่อส่งเสริมการหลอกลวง ได้แก่ David Koch, Dick Smith , Mike Baird, Andrew Forrest , Waleed Aly, Celeste Barber, Chris Hemsworth, Justin Hemmes, Harry Triguboff, Travers Beynon, Karl Stefanovic, Mark Ferguson, Mel Gibson, Mike Amor, Nicole Kidman, Mike Cannon‑Brookes, Scott Pape, Eddie McGuire, Daniel Ricciardo, Chris Brown, Liam Hemsworth, Anthony Pratt, Frank Lowy, Russell Crowe และ James Packer

ACCC กล่าวว่า อาจพบชื่อเซเลบคนดังรายอื่น ๆ เพิ่มเติม หลังจากกระบวนการค้นหาหลักฐานในคดีนี้ ซึ่งในขั้นต้นได้ระบุโฆษณาจำนวน 600 รายการ เป็นส่วนหนึ่งของการเรียกร้องเรียกค่าเสียหาย แต่ตอนนี้มุ่งเน้นไปที่โฆษณาจำนวน 234 รายการ

หน่วยงานกำกับดูแล กล่าวว่า แม้ว่า Meta จะหยุดลงโฆษณาและเพจแต่ละรายการเมื่อได้รับการร้องเรียน และในบางครั้งก็แบนบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่บริษัทยังคงแสดงและรับรายได้จากโฆษณาที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งใช้ชื่อเสียงของคนดังหรือบุคคลสาธารณะคนเดียวกันอยู่

ACCC กล่าวว่า Meta ล้มเหลวในการใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสม ในการป้องกันหรือลดความแพร่หลายของโฆษณา ซึ่ง Meta “มีความสามารถทางเทคนิคหรือสามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้ โดยสามารถจะแสดงคำเตือนบนโฆษณาว่า ผู้ใช้ควรระมัดระวัง เนื่องจากโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Facebook ได้ชี้แนะเป็นเท็จว่า บุคคลสาธารณะที่เกี่ยวข้อง ได้สนับสนุนโปรเจกต์สร้างรายได้หรือโปรเจกต์ซื้อขาย แต่ไม่ได้ให้คำเตือนดังกล่าว”

โฆษกของ Meta กล่าวว่า การหลอกลวงเป็นภัยคุกคามที่ซับซ้อนซึ่งมีเป้าหมาย หลอกลวง และบิดเบือนข้ามอุตสาหกรรม

“ผู้หลอกลวงใช้ทุกแพลตฟอร์มที่มีอยู่ และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมาย Meta ไม่ต้องการให้มีการหลอกลวงบนแพลตฟอร์มของเรา และเราจะทำงานอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อป้องกันและปกป้องผู้ใช้ของเรา”

เพื่อตอบคำถามของสมาชิกรัฐสภาเกี่ยวกับการสอบสวนโซเชียลมีเดีย เมื่อเดือนที่แล้ว Meta ระบุว่า นอกเหนือจากการระงับและลบบัญชี เพจ และโฆษณาแล้ว บริษัทยังได้ดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดที่ละเมิดข้อกำหนดของบริษัทด้วย

รายงานระบุว่า ระหว่างเดือนมกราคม 2023 ถึงเดือนมกราคม 2024 บริษัทได้ดำเนินการกับบัญชีหลายแสนบัญชีที่กำหนดเป้าหมายไปยังประเทศต่าง ๆ รวมถึงออสเตรเลีย

Scamwatch รายงานว่า ในปี 2024  มีการรายงานการสูญเสียเงินมากกว่า 13 ล้านดอลลาร์ จากการหลอกลวงการลงทุนที่โปรโมตบนโซเชียลมีเดีย เมื่อเทียบกับการสูญเสียเงินทั้งหมดจากการหลอกลวงทั้งหมดอยู่ที่ 134 ล้านดอลลาร์