อัตราเงินเฟ้อยังคงขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับสกุลเงินโบลิวาร์เวเนซุเอลา (VEB) แม้ว่ารัฐบาลเผด็จการจะพยายามหันเหความสนใจโดยการออกเหรียญ Cryptocurrency นาม Petro แล้วก็ตาม
อ้างอิงจากรอยเตอร์ อัตราเงินเฟ้อของเวเนซุเอลาเพิ่มขึ้น 454% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2018 และเพิ่มขึ้นถึง 8,900% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
จากการที่มีอัตราเงินเฟ้ออย่างหนักของเวเนซุเอลา ทำให้เกิดการล่มสลายของเศรษฐกิจและประชาชนอพยพออกจากประเทศวันละ 5,000 คนต่อวัน และภายในสิ้นปีนี้ก็จะมีปริมาณมากกว่า 5% หรือ 1.8 ล้านคนที่อพยพออกจากประเทศเวเนซูเอลา
แต่แทนที่รัฐบาลจะเข้ามาแก้ปัญหานี้ รัฐบาลกลับไปให้ความสนใจในเหรียญ Petro ที่มีรัฐบาลคอยหนุนหลังอยู่นั่นเอง
ประธานาธิบดีนาย Nicolas Maduro ได้ทำการระดมทุนในเหรียญ Petro และเคลมว่าสามารถระดมทุนไปได้ถึง 5 พันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนทั่วโลกและยังได้รับรางวัล “Satoshi Nakamoto Prize” จาก Russian Cryptocurrency และ Blockchain Association อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตามทางสภานิติบัญญัติได้ประกาศว่าเหรียญ Petro ผิดกฎหมาย
แต่นาย Maduro ได้กล่าวว่าเหรียญ Petro จะเป็นทางออกสำหรับประชาชนในเวเนซูเอลา โดยให้ผู้คนหันมาใช้ Cryptocurrency เพื่อรักษาความมั่งคั่งท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่วุ่นวายนี้
ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม P2P ในการซื้อขาย Cryptocurrency นาม LocalBitcoins แสดงให้เห็นว่าปริมาณการซื้อขาย VEB/BTC เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2018 และในช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายนที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าคู่ค้าดังกล่าว (VEB/BTC) มีปริมาณถึง 645 BTC ซึ่งเป็นมูลค่าถึง 5.1 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน
จากข่าวที่ทางสยามบล็อกเชนเคยเสนอเกี่ยวกับเหรียญ Petro ของเวเนซูเอลานั้น ถ้าในอนาคตทางรัฐบาลยังโฟกัสไปที่เหรียญ Petro ว่าจะสามารถแก้ปัญหาเงินเฟ้อในประเทศเวเนซูเอลาได้สำเร็จหรือไม่ เนื่องจากต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้มาจากเหรียญ Petro แต่อาจมาจากการที่ประชาชนไม่เชื่อใจในตัวรัฐบาลนั่นเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น