<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รายงานชี้ Mt. Gox และสหรัฐฯ อาจเทขาย Bitcoin มูลค่า 14 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนกันยายนนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่าแรงกดดันในการขาย Bitcoin จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังรายงานล่าสุดจาก Kaiko ได้ออกมาเปิดเผยว่า Mt. Gox และรัฐบาลสหรัฐฯ อาจปล่อย Bitcoin มูลค่ารวมกว่า 14.8 พันล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาดในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งอาจทำให้ราคาของ Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรงได้

ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ มี Bitcoin ถือครองไว้จำนวนกว่า 203,000 BTC คิดเป็นมูลค่า 12.1 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Mt. Gox ซึ่งเป็นกระดานเทรดคริปโตที่ปิดตัวไปแล้ว กำลังจะกระจาย Bitcoin อีก 46,000 BTC คิดมูลค่ากว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ให้กับเจ้าหนี้

โดยการชำระคืน Bitcoin จาก Mt. Gox คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2024 ผ่านแพลตฟอร์ม Kraken อย่างไรก็ตาม Kaiko ชี้ว่า การปล่อย Bitcoin ของ Mt. Gox จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

“Kraken สามารถจัดการกระแสเงินเข้า Bitcoin ETF โดยมีค่า Slippage เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยหลังตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการ เพราะฉะนั้นแรงกดดันการขายเพิ่มเติมใดๆ จากการชำระคืนของ Mt. Gox จะไม่น่าก่อให้เกิดปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดโดยรวม”

และในขณะที่เจ้าหนี้ของ Mt. Gox ต่างรอคอยการชำระคืน Bitcoin มูลค่ากว่า 9.4 พันล้านดอลลาร์มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยกำไรมากกว่า 8,500% ทำให้ตลาดกังวลว่าเจ้าหนี้น่าจะต้องการขายเหรียญเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเผยว่าเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ของ Mt. Gox เลือกที่จะไม่ขาย Bitcoin ที่ได้รับชำระคืนไปแล้วในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 41.5% ของจำนวนเงินที่ต้องชำระทั้งหมด

นอกจากนี้ Bitcoin ของเจ้าหนีในตอนนี้ยังไม่พบว่ามีการเทขายอย่างมีนัยสำคัญ โดยข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่า เจ้าหนี้ส่วนใหญ่เลือกที่จะรับชำระเป็น Bitcoin แทนที่จะเป็นเงินสด ซึ่งเป็นครั้งแรกในกฎหมายล้มละลายของญี่ปุ่น

“เจ้าหนี้เลือกที่จะรับ BTC แทนที่จะเป็นเงินสด ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ในกฎหมายล้มละลายของญี่ปุ่น […] ดังนั้น จึงมีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่เหรียญที่แจกจ่ายเหล่านี้เพียงบางส่วนเท่านั้นที่จะถูกขายออกสู่ตลาดอย่างแท้จริง”

อย่างไรก็ตาม ราคา Bitcoin ในตอนนี้ยังคงต่ำกว่าแนวต้านที่ 60,000 ดอลลาร์ โดยปรับตัวลงกว่า 10.7% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์จาก Bitfinex ชี้ว่า สภาพคล่องที่ลดลงในช่วงฤดูร้อนอาจส่งผลกระทบไปจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งจะทำให้ราคา Bitcoin เผชิญกับความยากลำบากและยากที่จะทะลุแนวต้านที่ 63,900 ดอลลาร์ไปได้

ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ

ที่มา: Cointelegraph