ไม่นานมานี้ชุมชนคริปโตจะกลับมามีความหวังอีกครั้ง หลังราคา Bitcoin สามารถพุ่งขึ้นไปแตะ 67,000 ดอลลาร์ได้ในวันนี้ แต่ดูเหมือนว่าความยินดีนี้จะอยู่ได้ไม่นานนัก หลังราคาล่าสุดได้ร่วงลงมาแตะที่ 65,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
แม้ว่าข่าวดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่นักวิเคราะห์ต่างๆ ยังคงมีความคิดว่าราคา Bitcoin จะสามารถสร้างผลประกอบการที่น่าประทับใจได้ในเดือนตุลาคม ด้วยปรากฏการณ์ Uptober รวมถึงเหตุการณ์การเลือกตั้งในสหรัฐฯ
โดย Geoff Kendrick นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered ได้ออกมาเปิดเผยว่า Bitcoin อาจพุ่งขึ้นไปแตะระดับราคาสูงสุดที่ 73,800 ดอลลาร์ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีนี้
เขาได้เผยว่า มีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลให้ราคานั้นเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ การฟื้นตัวของความสนใจในกองทุน Bitcoin และโอกาสที่ Donald Trump จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
การปรับตัวขึ้นนี้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเส้นโค้งผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (2s10s yield curve) ซึ่งเกิดจากข้อมูลเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ตลาดคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนหันมาหาทางเลือกอื่น ๆ เช่น Bitcoin มากขึ้น
นอกจากนี้ Kendrick ยังกล่าวถึงโอกาสที่ Donald Trump จะชนะการเลือกตั้ง ซึ่งมีมากถึง 56.3% ตามข้อมูลจาก Polymarket โดยมีโอกาสถึง 70% ที่พรรครีพับลิกันจะชนะทั้งสภาและวุฒิสภาหาก Trump ได้รับเลือกอีกครั้ง ซึ่งสภาพแวดล้อมเช่นนี้อาจส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin ได้รับผลประโยชน์
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: TheBlock