<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เทคนิคควรรู้ 5 ข้อเมื่อตลาดเหรียญ Ethereum มีความผันผวนสูง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลายๆคนคงรู้กันดีว่าตลาดเหรียญ cryptocurrency ทุกตัวนั้นก็ไม่ต่างกับรถไฟเหาะดีๆนี่เอง เมื่อวันศุกร์และเสาร์ที่ผ่านมา เหรียญคริปโตที่เป็นที่รู้จักกันดีส่วนใหญ่สูญเสียมูลค่าไปมากกว่า 40% ภายในเพียงแค่ 48 ชั่วโมง จนกระทั่งเริ่มมาดีดตัวกลับขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นักเทรดเหรียญคริปโตมือใหม่ส่วนใหญ่ที่เพิ่งจะเริ่มเทรดนั้นมักจะทำใจไม่ได้และปรับตัวไม่ทัน

คำถามที่ตามมาคือเราจะจัดการกับสภาพความผันผวนของตลาดนี้ได้อย่างไร ขาขึ้นที่คุณเห็นนั้นมันจบลงแล้วใช่หรือไม่ หรือการวิเคราะห์ราคาที่กล่าวว่า Ethereum นั้นจะพุ่งไปสู่ 550 ดอลลาร์นั้นยังคงเป็นไปตามนั้นอยู่

ความยากของการถือเหรียญคริปโตที่ผู้ใช้งานหลายๆคนรู้ดีนั้นคือพวกเหรียญเหล่านั้นมันไม่มีที่มาที่ไปของสินทรัพย์อื่นๆที่คอยมาค้ำประกันมันไว้ (เช่นทองและน้ำมัน) และดังนั้นหลายๆคนจึงไม่รู้ถึงวิธีที่จะค้นหาข้อมูลของเหรียญดังกล่าวเพื่อทำการวิเคราะห์ตลาดและราคาเพื่อทำการลงทุน ซึ่งอันที่จริงแล้วพฤติกรรมของตลาดเหรียญคริปโตนั้นก็เหมือนๆกับตลาดอื่นๆ เพียงแต่ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงนั้นเร็วกว่าประมาณ 10 เท่า

ดังนั้น เราจึงทำได้แค่พึ่งพาทฤษฎีการวิเคราะห์เชิงเทคนิคแบบที่เราๆหลายๆคนทราบกันดี

InvestingHaven นั้นได้อธิบายถึงเทคนิคสำคัญ 5 ข้อที่สามารถนำมาปรับใช้กับการลงทุนในเหรียญคริปโตได้ โดยเทคนิคเหล่านี้จะสามารถช่วยให้นักเทรดเหรียญคริปโตสามารถที่จะรับมือกับสภาพความผันผวนของตลาดได้ในระดับหนึ่ง โดยเทคนิค 5 ข้อนี้จะช่วยตอบคำถามที่เราได้ตั้งไปแล้วในย่อหน้าข้างต้น โดยเราจะโฟกัสไปที่ตลาดของ Ethereum ที่เป็นตลาดที่มีคนให้ความสนใจมากที่สุด

  1. ความผันผวนของตลาดนั้นเป็นเรื่องธรรมดา
    ทุกๆตลาดนั้นมีตวามผันผวนอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางตลาดนั้นมีความอ่อนไหวมากกว่าบางตลาด อย่างเช่นตลาดสินค้าแบบทั่วไปและตลาดค่าเงินนั้นหลายๆคนทราบกันดีว่ามีความผันผวนสูงมาก ในขณะที่ตลาดเหรียญคริปโตนั้นมีความผันผวนมากกว่าตลาดอื่นๆนั่นก็เป็นเพราะว่าความรวดเร็วในการส่งเหรียญ cryptocurrency หากันที่เร็วในระดับวินาที ต่างจากตลาดทอง หรือเงินที่จำเป็นที่จะต้องใช้การขนส่งแบบโลจิสติกที่กินเวลานานกว่ามาก

    มากไปกว่านั้น เหรียญคริปโตไม่ได้ถูกถือโดยบริษัทใหญ่ๆมากนัก พวกบริษัท Institutional Trader เหล่านั้นมักจะเข้าหาตลาดที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า โดยพวกเขาส่วนใหญ่นั้นมักจะถือสินทรัพย์ประเภทที่สามารถที่จะถือเก็บไว้ได้ในระยะยาว ดังนั้น ณ จุดนี้ความเสถียรของตลาดเหรียญคริปโตนั้นอาจกล่าวได้ว่าไม่มี แต่มันอาจจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตอันใกล้นี้

    การรับมือสภาพตลาดผที่ผันผวนนั้นถือเป็นเกมทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง ความง่ายที่สุดของเทคนิคนี้คือการควบคุมอารมณ์เมื่อราคานั้นพุ่งขึ้น (โดยคิดเป็นส่วนใหญ่) เพราะนี่เป็นทักษะที่ไม่สามารถสอนกันได้ แต่ต้องฝึกกันเอง และคุณจะได้ใช้ทักษะที่ฝึกมานี้ในตอนที่ราคาพุ่งลงอีกด้วย

  1. Flash Crash นั้นเป็นเรื่องธรรมดา
    การตกของราคาในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นได้แสดงให้เห็นแล้วว่า flash crash เป็นอย่างไร โดยนั่นก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาอีกด้วย ตลาดหุ้นส่วนใหญ่นั้นก็มี flash crash เช่นกัน ลองนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนปี 2010, ในปี 1987 และอื่นๆ

    จริงๆแล้ว flash crash นั้นถือเป็นเรื่องดี มันทำให้คนเลิกหันมาสนใจในตลาดนั้นๆ

    คุณไม่จำเป็นต้องไปโฟกัสที่การตก แต่ให้ไปโฟกัสที่ระดับของราคา อย่างเช่นเหรียญ Ethereum ที่กำลังแสดงให้เห็นถึงขาขึ้นในระยะยาวโดยตราบใดก็ตามที่มันยังถูกซื้อขายที่ราคาที่สูงกว่า 80 ดอลลาร์

    โดยนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการควบคุมอารมณ์ของคุณ พร้อมๆกับการทำใจยอมรับว่า flash crash นั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาในทุกๆตลาด

  1. ถือเหรียญ Ethereum ในระยะยาว
    ท้ายที่สุดนั้น ความหมายของการตกของราคาที่มากถึง 40% นั้นคืออะไร หากพูดถึงในภาพรวมกว้างๆนั้นมันถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามหรือไม่

    คำตอบของการตกของราคาของ Ethereum ถึง 40% หลังจากพุ่งไปที่ 210 ดอลลาร์นั้นคือแทบจะไม่สำคัญเลย

    ผู้ถือเหรียญ ETH นั้นควรที่จะโฟกัสไปที่การถือเหรียญแบบระยะยาว ลองจินตนาการถึงศักยภาพของเหรียญคริปโตที่ยังไม่ถูกค้นพบสิ พยายามอย่าลืมว่าในวงการการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางด้านการใช้จ่ายออนไลน์ที่ไม่ได้ถูกผลกระทบจากการปฏิวัติทางด้านดิจิตอล

    ศักยภาพด้านบวกนั้นมีสูงมาก ดังนั้นคุณควรที่จะให้ความสนใจไปที่ระยะยาวมากกว่า flash crash ที่เกิดขึ้นเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ

  1. ซื้อ Dip (ช้อนซื้อเมื่อราคาตก)
    ผู้ถือ ETH ที่ฉลาดๆส่วนใหญ่นั้นมักจะซื้อมันเพิ่มเมื่อราคาของเหรียญ​ ETH ตก ราคาของเหรียญคริปโตที่คุณชื่นชอบที่ถูกลงนั้นถือเป็นเรื่องดีในท้ายที่สุด คล้ายๆกับราคาของรถหรือหรือร้านอาหารที่คุณชื่นชอบที่มีราคาถูกลง

    เมื่อราคาของเหรียญ Ethereum เพิ่มขึ้นนั้น คุณควรที่จะเริ่มทำการวิเคราะห์จุดที่ควรจะเข้าและออกจากตลาด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อราคาของเหรียญ ETH เพิ่มขึ้นไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ที่ 550 ดอลลาร์ คุณก็ควรที่จะขายตามที่คุณตั้งเป้าและวางแผนไว้ไม่ควรเปลี่ยนแผนกลางคัน มิเช่นนั้นอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันที่ทำให้ราคาตกลงมา เช่นเหลือ 350 ดอลลาร์ก็อาจเป็นได้

  1. มีวินัยและควบคุมพอร์ทของคุณให้ดี
    ข้อสุดท้ายนั้นบ่งชี้ถึงการควบคุมพอร์ทของเหรียญคริปโตที่คุณใช้ในการเทรด นี่เป็นเรื่องที่เบสิคที่สุดในเรื่องของการลงทุนเลยก็ว่าได้ การบริหารการเงินและพอร์ทที่ดีนั้นจะทำให้ผลของระยะยาวนั้นเป็นสิ่งที่คุณอาจจะไม่เชื่อและคาดไม่ถึงในอีก 7 ปีต่อจากนี้

การเทรดทุกชนิดมีความเสี่ยง ควรจะเตรียมเงินลงทุนที่คุณพร้อมจะสูญเสียมันเท่านั้น