หลังจากที่ Bitcoin พุ่งทะลุราคา 100,000 ดอลลาร์ โลกก็ได้เห็นความมหัศจรรย์ของคริปโตชัดเจน! งานวิจัยล่าสุดจาก NFTEvening และ Storible เผยว่า ตอนนี้มี กระเป๋า Bitcoin กว่า 17,000 ใบ ที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ที่เติบโตจากการถือ Bitcoin มากถึง 14,211 ราย และยังมีมหาเศรษฐี Bitcoin เพิ่มขึ้นอีก 4 ราย งานนี้เรียกได้ว่า Bitcoin สร้างความมั่งคั่งแบบก้าวกระโดดให้กับนักลงทุนรายย่อยแบบไม่เคยมีมาก่อน
ที่น่าสนใจคือ งานวิจัยนี้เจาะเฉพาะกระเป๋าเงินที่เริ่มต้นด้วยเงินทุนไม่มาก เช่น ไม่เกิน 100,000 ดอลลาร์ เพื่อดูว่าคนธรรมดาสามารถรวยจาก Bitcoin ได้ยังไง ผลที่ได้คือ นักลงทุนที่ถือ Bitcoin ตั้งแต่ราคาไม่กี่ดอลลาร์ สามารถเปลี่ยนเงินลงทุนเพียง 4,000 ดอลลาร์ ให้กลายเป็น 1 ล้านดอลลาร์ในเวลาเฉลี่ย 10.3 ปี ซึ่งเทียบกับการลงทุนในหุ้นแล้ว จะได้ผลตอบแทนเพียง 45,000 ดอลลาร์เท่านั้น
พูดง่าย ๆ ก็คือสำหรับ Bitcoin การลงทุนเริ่มต้น 30,500 ดอลลาร์ จะใช้เวลาประมาณ 12.7 ปีในการสร้างผลตอบแทนสูงถึง 32,787 เท่า! แต่ถ้าเป็นหุ้น ผลตอบแทนจะอยู่แค่ประมาณ 950,000 ดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน
ผลตอบแทนของ Bitcoin แซงหน้าหุ้น Apple, Nvidia และ Tesla ตั้งแต่ปี 2010
ถ้าพูดถึงผลตอบแทนของ Bitcoin ต้องบอกว่ากินขาด เมื่อนำไปเทียบกับหุ้นยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Nvidia และ Tesla ตั้งแต่ปี 2010 ถึงปัจจุบัน ผลตอบแทนของ Bitcoin พุ่งสูงจนหุ้นเหล่านี้ดูจืดไปเลย โดยเฉพาะในช่วงปี 2010-2020 Bitcoin ให้ผลตอบแทนมากกว่า Apple ถึง 20 เท่า, Nvidia 9 เท่า และ Tesla 4 เท่า เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง
ไม่ใช่แค่นั้น! ถ้ามองภาพใหญ่ตั้งแต่ปี 2010 ถึงวันนี้ ผลตอบแทนจาก Bitcoin สูงถึง 76,378 เท่าของ Apple, 6,062 เท่าของ Nvidia และ 9,103 เท่าของ Tesla เรียกได้ว่าใครที่ลงทุนใน Bitcoin ตั้งแต่แรกเริ่ม คงกลายเป็นเศรษฐีในปัจจุบัน
นักลงทุน BTC กลายเป็นเศรษฐี เร็วกว่านักลงทุนหุ้นถึง 22 เท่า ที่มา: NFTEvening
อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลจาก NFTEvening จะยืนยันว่า นักลงทุน Bitcoin มีโอกาสกลายเป็นเศรษฐีเร็วกว่านักลงทุนหุ้นถึง 22 เท่า! แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสำเร็จเสมอไป การลงทุนในคริปโตยังคงมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
ในขณะที่รายงาน ราคา Bitcoin กำลังซื้อขายอยู่ที่ 95,934.87 ดอลลาร์ ลดลง 0.36% ภายใน 24 ชั่วโมง อ้างอิงข้อมูลจาก coinmarketcap
ที่มา : beincrypto