<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Donald Trump เปิดศักราชใหม่! ผู้เชี่ยวชาญชี้ ‘ยุคทองของ Memecoins’ มาถึงแล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเข้ามาของ Donald Trump ได้กระตุ้นการยอมรับของนักลงทุนรายย่อยในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เหรียญมีมและคริปโตเคอร์เรนซีขนาดเล็ก หลังจากที่เขาได้เปิดตัวเหรียญมีมไปไม่นานมานี้

โดยเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ทีมที่ปรึกษาของ Donald Trump เปิดตัวโทเคน Official Trump (TRUMP) บนเครือข่าย Solana ตามด้วยโทเคน Official Melania (MELANIA) ในวันที่ 19 มกราคม ก่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ในวันที่ 20 มกราคมนี้

การเปิดตัวเหรียญมีมครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง” สำหรับอุตสาหกรรมคริปโต โดย Anndy Lian ผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนระหว่างรัฐบาลกล่าวว่านี่คือการฟื้นคืนกระแส Initial Coin Offering ( ICO) ในรูปแบบใหม่ที่ขยายตัวด้วยเงินทุนมหาศาลและอิทธิพลระดับโลก

“เป็นเรื่องที่น่าสนใจเมื่อพิจารณาว่านี่คือการฟื้นคืนของกระแส Initial Coin Offering (ICO) ที่ได้ขยายตัวด้วยมูลค่าตลาดที่มหาศาลและอิทธิพลระดับโลก นี่ไม่ใช่แค่การเปิดตัวโทเคนทั่วไป แต่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มการเงินที่ประสานงานและการรับรองจากบุคคลมีชื่อเสียง ซึ่งสามารถผลักดันมูลค่าตลาดให้สูงถึงระดับพันล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงขนาดและผลกระทบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการ Memecoin”

อย่างไรก็ตาม โทเคน TRUMP กลับมีมูลค่าลดลงกว่า 17% ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนเวลา 10:15 น. ตามเวลา UTC โดยมูลค่าตลาดของโทเคนพุ่งถึง 14.9 พันล้านดอลลาร์ในวันที่ 19 มกราคม ก่อนลดลงกว่า 27% สู่ระดับ 10.8 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap

ในขณะที่ Ki Young Ju ซีอีโอของ CryptoQuant มองว่า การเปิดตัวนี้แสดงถึง “ยุคใหม่” ของการลงทุนในตลาดเหรียญมีม และชี้ให้เห็นถึงธรรมชาติของตลาดการเงินที่ดำเนินไปในรูปแบบคล้าย Meme ซึ่งยังคงอยู่ในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล

ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์อย่าง Valentin Fournier จาก Blockhead Research Network เห็นว่าการเปิดตัวโทเคนเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการย้ายเงินทุนเข้าสู่ Altcoins ซึ่งอาจมีผลตอบแทนดีกว่า Bitcoin และ Ethereum ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ได้เป็นที่ชื่นชมในทุกมุมมอง เนื่องจากมีเสียงวิจารณ์ว่าการเปิดตัว เหรียญมีมของทีมทรัมป์อาจเป็น “กลยุทธ์ปั่นราคา” ที่สร้างกำไรมหาศาลให้กับทีมงานและครอบครัวทรัมป์ในระยะเวลาอันสั้น

ที่มา: Cointelegraph