Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ออกมาเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ Ethereum ต้องมีทั้ง “ความเป็นส่วนตัว” และ “ความยืดหยุ่น” หากต้องการเป็นตัวเลือกแทนเงินสดได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อหลายประเทศในแถบสแกนดิเนเวียเริ่มกลับมาใช้เงินสดอีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของระบบชำระเงินดิจิทัลแบบรวมศูนย์
“เงินสดยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในฐานะทางเลือก … Ethereum จำเป็นต้องแข็งแรงพอ และมีความเป็นส่วนตัวมากพอ ที่จะสามารถทำหน้าที่แบบนั้นได้อย่างน่าเชื่อถือ”
เมื่อไม่นานมานี้ประเทศอย่างนอร์เวย์และสวีเดนเคยเป็นผู้นำในการผลักดันสังคมไร้เงินสด โดยเฉพาะสวีเดนที่ปริมาณการใช้เงินสดลดลงอย่างมากในช่วงต้นปี 2020s ก่อนจะเริ่มมีความสนใจกลับมาใช้เงินสดอีกครั้ง เนื่องจากความไม่มั่นใจในระบบดิจิทัลแบบรวมศูนย์
David Manheim อาจารย์จาก Technion ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อโพสต์ของ Buterin โดยชี้ว่าการที่ประเทศพัฒนาแล้วเริ่มหันกลับมาใช้เงินสด เป็นสัญญาณเตือนว่าเราจำเป็นต้องมีโซลูชันดิจิทัลที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เช่นเทคโนโลยีการโอนเงินแบบไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ใช้การเข้ารหัสแบบ zero-knowledge (zk-secured) ซึ่งถูกพัฒนาโดย Zooko Wilcox ผ่านโปรเจกต์ Zcash
เมื่อถูกถามว่าการโอนเงินแบบ zk-secured แบบออฟไลน์พร้อมใช้งานจริงแล้วหรือยัง Buterin ตอบว่า “กระบวนการพื้นฐานนั้นเราเข้าใจดีอยู่แล้ว” แต่ยังมีข้อจำกัดสำคัญอยู่ เช่นความจำเป็นต้องพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่เชื่อถือได้ หรือระบบตรวจจับผู้พยายามใช้เงินซ้ำซ้อนย้อนหลัง
การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนภาพที่ชัดเจนว่าอนาคตของเงินดิจิทัล ไม่ได้วัดจากความสะดวกอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องพิจารณาความสามารถในการให้ “อำนาจควบคุม” แก่ผู้ใช้งาน ความยืดหยุ่นในการรับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างแท้จริง
ในท้ายที่สุด สิ่งที่โลกต้องการอาจไม่ใช่แค่เงินดิจิทัลที่ทำงานได้เร็ว แต่เป็น “ระบบการเงินใหม่” ที่กล้าเผชิญกับคำถามด้านจริยธรรม ความโปร่งใส และความมั่นคง ที่จะกลายเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจในโลกดิจิทัลยุคใหม่
ที่มา: News.Shib

