Snorter Token ($SNORT) สามารถระดมทุนจากโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้น ได้มากถึง 525,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 2 ชั่วโมงสุดท้าย ก่อนที่ราคาจะปรับขึ้นในเฟสถัดไป
ปัจจุบัน $SNORT มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 0.0943 ดอลลาร์ นี่คือโอกาสสุดท้ายสำหรับนักลงทุนในช่วงแรก ที่จะได้ครอบครองโทเค็น ก่อนที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้นในเฟสต่อไป
หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดขึ้น Banana Gun ซึ่งเป็นบอทซื้อขาย Ethereum ที่มีชื่อเสียง สามารถระดมทุนได้ 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดรอบ Private Sale ทั้งหมด โดยเป็นบอทที่มีเวลาเริ่มต้น ที่ยาวนานกว่ามาก
แต่บอทเทรด Snorter กำลังเคลื่อนไหวในอัตราความเร็วแบบเรียลไทม์ โดยไม่มีการสนับสนุนจาก VC (Venture Capital) หรือการโปรโมทโฆษณาที่ต้องเสียเงินเลย
Snorter บอทเทรดสุดล้ำที่จะเปลี่ยน Telegram ให้เป็นแพลตฟอร์มการเทรดเต็มรูปแบบ
Snorter ถูกสร้างขึ้นมา ให้เป็นบอทเทรดที่ทำงานบน Telegram โดยเฉพาะสำหรับเครือข่าย Solana และ Ethereum ซึ่งจะเปลี่ยน Telegram ให้กลายเป็นเครื่องมือการเทรดแบบครบวงจร ตั้งแต่การ swap ที่ใช้เวลาไม่ถึงวินาที, การสไนป์เหรียญทันที, การคัดลอกการเทรด และการติดตามพอร์ตแบบเรียลไทม์ ซึ่งบอทนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักเทรดเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น และเทรดได้อย่างชาญฉลาดขึ้น โดยทั้งหมดนี้ทำได้จากในแชท
ในตลาดเหรียญมีม (meme coin) ปัจจุบันความเร็วคือ ปัจจัยชี้เป็นชี้ตาย นักเทรดรายย่อยที่ต้องมาเสียเวลากับการใช้งานกระเป๋าเงินบนเบราว์เซอร์ มักจะเข้าซื้อเหรียญได้ช้าเกินไป ทำให้บอทและนักสไนป์เหรียญ เข้าถึงเหรียญก่อน นี่คือ ข้อได้เปรียบสำคัญที่ Snorter มอบให้
นักเทรดรายย่อยกำลังถูกบอทแซงหน้า
การซื้อขายเหรียญมีมยังคงเป็นหนึ่งในวิธีที่เร็วที่สุดในการเปลี่ยนเงินทุนจำนวนน้อยให้กลายเป็นการสร้างกำไรที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้ หากคุณเล่นอย่างถูกวิธี
ในปีที่ผ่านมาเพียงปีเดียว เหรียญมีม Pepe ($PEPE) มีอัตราการพุ่งขึ้นถึง 1,948%, ในขณะที่ Bonk ($BONK) พุ่งขึ้น 302% และ SPX6900 ($SPX) สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าทึ่งได้ถึง 11,025%
ที่น่าสังเกตคือ โทเค็นที่เกิดจากแพลตฟอร์มเปิดตัวเหรียญมีมอย่าง Pump.fun ก็ราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยราคา Fartcoin ($FARTCOIN) พุ่งขึ้น 2,905% , ราคา Peanut the Squirrel ($PNUT) พุ่งขึ้น 2,642% ก่อนที่จะถูกลิสต์เข้าสู่กระดานเทรดคริปโตหลัก
แต่นักเทรดส่วนใหญ่ยังคงขาดทุน ไม่ใช่เพราะโทเค็นไม่มีศักยภาพ แต่เป็นเพราะพวกเขา เคลื่อนไหวช้าเกินไป เนื่องจากต้องเข้าซื้อด้วยตัวเอง และถูกบอทดักซื้อโทเค็นไปก่อน
การวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อขายของ Pump.fun ล่าสุด แสดงให้เห็นว่า นักเทรดกว่า 60% ขาดทุน โดยกระเป๋าเงินประมาณ 2.4 ล้านใบ ขาดทุนต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ และกระเป๋าอีกหลายสิบใบ ขาดทุนมากกว่าหกหลัก
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวเหรียญ หากแต่เป็นการดำเนินการที่บกพร่อง เมื่อขาดความเร็ว, ระบบอัตโนมัติ หรือกลไกการป้องกันที่เหมาะสม นักเทรดรายย่อยก็ไม่ต่างอะไรกับสภาพคล่องที่บอทใช้เป็นทางออกในการทำกำไร

Snorter เครื่องมือที่จะช่วยให้คุณ “Snipe” เหรียญมีมได้ก่อนใคร
คุณจะต้อง Snipe เหรียญมีมก่อนที่ราคาจะพุ่ง และนี่คือสิ่งที่ Snorter เข้ามาช่วยคุณได้ โดยมอบความรวดเร็ว และความได้เปรียบแบบเดียวกับที่ “เจ้ามือ” (ผู้เล่นรายใหญ่) ใช้ในการเข้าซื้อเหรียญก่อนนักเทรดทั่วไป
Snorter เหนือกว่า เนื่องจาก สร้างมาเพื่อนักเทรดสาย “Degen” ตัวจริง
บอท Telegram ส่วนใหญ่ล้วนอวดอ้างว่า เป็นบอทที่ช่วยทำให้คุณได้เปรียบในตลาด แต่ Snorter สามารถทำให้คุณได้เปรียบในตลาดได้จริง
แม้ว่า เครื่องมืออย่าง Banana Gun, Unibot และ STBot จะมีบทบาทสำคัญในการบุกเบิกยุคของบอทเทรด แต่ก็ยังคงติดอยู่บนเครือข่าย Ethereum ที่ล่าช้าและมีค่าธรรมเนียมสูง ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยเน้นที่นักพัฒนาเป็นหลัก ไม่ใช่เพื่อนักเทรดสาย “Degen” (นักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงสูง) โดยเฉพาะ
Snorter ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความผันผวนของเหรียญมีม ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะพบรากฐานที่มั่นคงยิ่งขึ้นบนเครือข่าย Solana
Snorter เริ่มต้นด้วยการสวอปที่ใช้เวลาไม่ถึงวินาทีบน Solana ซึ่งขับเคลื่อนด้วยโครงสร้างพื้นฐาน RPC ที่กำหนดเอง สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้ Snorter สามารถ สไนป์โทเค็น ได้ทันทีที่มันเปิดตัว ซึ่งมักจะเกิดขึ้นก่อนที่นักเทรดส่วนใหญ่จะเห็นรายชื่อเหรียญด้วยซ้ำ
การสไนป์ หมายถึง การซื้อโทเค็นในนาทีแรกที่เปิดตัว ก่อนที่กราฟจะปรากฏบน DEXs ด้วยซ้ำ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้เปรียบด้านเวลาเป็นอย่างมาก
ฟีเจอร์เด่นของ Snorter ที่รวดเร็วและปลอดภัย
ฟีเจอร์เด่นของ Snorter ไม่ใช่แค่เรื่องของความเร็วเท่านั้น แต่ยังรวมถึง ความปลอดภัย ด้วย Snorter ที่มาพร้อมกับ การป้องกัน MEV (Maximal Extractable Value) ในตัว ซึ่งช่วยปกป้องการเทรดจากการโจมตีแบบ “แซนด์วิช” (sandwich attacks) และ “การดักหน้า” (frontrunning) ที่สามารถลดทอนผลกำไรก่อนที่ธุรกรรมของคุณจะได้รับการยืนยันด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ Snorter ยังไม่ทอดทิ้งนักเทรดสาย Degen บน Ethereum เพราะการสนับสนุนเชนดังกล่าวก็ใกล้จะมาถึงแล้ว และ BNB, Polygon, รวมถึง Base ก็อยู่ในแผนงานนี้ เช่นกัน
แล้วค่าธรรมเนียมการเทรดเป็นอย่างไร? บอทส่วนใหญ่คิดค่าธรรมเนียม 1.5% หรือมากกว่า แต่ Snorter ลดค่าธรรมเนียมลง เหลือเพียง 0.85% ทำให้ Snorter เป็นหนึ่งในบอทเทรดที่มีค่าธรรมเนียมต่ำที่สุดในตลาดตอนนี้
Snorter ไม่ได้มีแค่ฟีเจอร์การเข้าซื้อก่อนใครเท่านั้น แต่ยังโดดเด่นด้านการ ป้องกันความเสี่ยง ด้วยอัตราการตรวจจับ Rugpull และ Honeypot สูงถึง 85% ในช่วง Beta แบบปิด
ระบบจะสแกนหาข้อบกพร่องในการสร้างเหรียญ, บัญชีดำ (blacklists), และการตรึงสภาพคล่อง (liquidity locks) แบบเรียลไทม์ เพื่อให้การเทรดของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น หากโทเค็นมีการบล็อกการขาย หรืออนุญาตให้นักพัฒนาสามารถสร้างเหรียญเพิ่มได้หลายพันล้านเหรียญหลังการเปิดตัว Snorter จะแจ้งเตือนคุณก่อนที่คุณจะกด ‘ซื้อ’ เสมอ

หากคุณไม่เคย Snipe มาก่อน ก็ไม่ใช่ปัญหา เนื่องจาก Snorter ช่วยให้คุณสามารถคัดลอกกระเป๋าเงินที่มีผลงานดีที่สุดได้แบบเรียลไทม์ เพียงแค่เลือกกระเป๋าเงิน กำหนดขนาดตำแหน่งของคุณ แล้ว Snorter จะสะท้อนการซื้อและขายของพวกเขา โดย ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ใน Telegram
ลองนึกภาพว่าคุณได้นั่งข้างๆ นักเทรดมือฉมัง ที่คุณสามารถเทรดได้อย่างไร้กังวล ไม่ต้องดูหน้าจอกราฟ ไม่ต้องเครียดเรื่องเวลา และไม่ต้องนั่งคาดเดาทิศทางตลาดเองเลย
Snorter ไม่ได้มาเพื่อเล่นตามกฎ แต่มาเพื่อเขียนกฎใหม่ สำหรับยุคของเหรียญมีมที่มีความเร็ว ประสิทธิภาพสูง และอันตรายมากยิ่งขึ้น
$SNORT ขับเคลื่อนทุกสิ่ง – ทั้งค่าธรรมเนียม, รางวัล, การกำกับดูแล, และการเติบโต
การเป็นเจ้าของ $SNORT นั้นไม่ใช่เป็นแค่ทางเลือก แต่เป็นหัวใจสำคัญในการปลดล็อกพลังทั้งหมดของบอทเทรด
การถือครอง $SNORT ในบัญชีบนบล็อกเชนขั้นต่ำ จะช่วยลดค่าธรรมเนียมการเทรดเหลือเพียง 0.85% ซึ่งไม่มีใครเทียบได้ และทำลายขีดจำกัดการ Snipe รายวันออกไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ที่ดีที่สุดของบอทเทรดได้อย่างเต็มรูปแบบ
ผู้ถือโทเคนระยะยาวก็จะได้รับประโยชน์จากผลตอบแทนเช่นกัน โดยมีโทเคนจำนวน 25 ล้านโทเคน ถูกจัดสรรไว้สำหรับผู้ที่นำมา Stake ซึ่งจะจ่ายเป็นบล็อกต่อบล็อกตลอด 12 เดือน เพื่อตอบแทนผู้ที่เชื่อมั่นในโปรเจกต์ตั้งแต่ช่วงแรก ปัจจุบัน รางวัลจากการ Stake มีผลตอบแทนต่อปี (APY) สูงถึง 674% ซึ่งอัตรานี้จะปรับเปลี่ยนไปตามการเข้าร่วมกลุ่มแบบไดนามิก

บทบาทของ $SNORT ในการกำกับดูแล และเศรษฐกิจของแพลตฟอร์ม
เมื่อโมเดล DAO (Decentralized Autonomous Organization) เปิดใช้งาน $SNORT จะมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแล โดยให้สิทธิ์การโหวตแก่ผู้ถือครองในการตัดสินใจเกี่ยวกับการรวมบล็อกเชนใหม่ๆ เช่น ค่าธรรมเนียม, และการจัดสรรเงินทุนของคลัง (treasury allocation)
และยังมีอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลีคการเทรด, รางวัลสำหรับผู้ที่ติดอันดับบนกระดาน Leaderboard, สิ่งจูงใจในการคัดลอกการเทรด (copy-trading incentives), และแคมเปญการแนะนำ ทั้งหมดนี้ ถูกออกแบบมาให้ทำงานบน $SNORT เพื่อเชื่อมโยงกิจกรรมของระบบนิเวศ เข้ากับความเร็วในการหมุนเวียนของโทเค็น
โดยหลักแล้ว $SNORT ตั้งอยู่บนจุดตัดของสองเทรนด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคริปโต ได้แก่ กระแสความนิยมของเหรียญมีม และ การเทรดผ่าน Telegram ซึ่งทำให้มันมีศักยภาพที่จะมอบผลตอบแทนที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สนับสนุนในช่วงแรก
หากต้องการเป็นผู้สนับสนุนช่วงแรกของ Snorter Token ให้ไปที่เว็บไซต์ของ Snorter Token เพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่นที่สุด โปรดใช้ Best Wallet กระเป๋าเงินบนมือถือเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถมองเห็นข้อมูลโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้นได้อย่างครบถ้วน และเข้าถึงการเปิดตัวโทเค็นที่กำลังจะมาถึงได้ก่อนใคร ผ่านฟีเจอร์ ‘Upcoming Tokens’ สุดพิเศษ
สามารถดาวน์โหลด Best Wallet ผ่าน Google Play หรือ Apple App Store ได้
หรือเชื่อมต่อกับชุมชน Snorter Token บน Twitter และ Instagram
หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษา Snorter Bot เพิ่มเติม ได้แล้ว
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | ✔️ |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | ❌ |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | ✔️ |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | ❌ |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | ✔️ |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 9. สัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์

