Hunter Horsley ซีอีโอของ Bitwise ระบุว่าแรงขายของ Bitcoin จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญหากราคาทะลุระดับ 130,000–150,000 ดอลลาร์ โดยเขาเชื่อว่า ณ จุดนั้นจะไม่มีใครอยากขาย Bitcoin อีกต่อไป เพราะผู้ถือครองส่วนใหญ่จะเลือกใช้วิธีกู้ยืมเงินบนแพลตฟอร์มอย่าง BlockFi หรือ Aave แทนการขายเพื่อรักษาครอบครองเหรียญไว้ ส่งผลให้ปริมาณเหรียญหมุนเวียนในตลาดลดลง และอาจดันราคาขึ้นต่อได้
“ไม่มีใครอยากขาย Bitcoin ของตัวเอง”
ความเห็นของเขาสะท้อนภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะหลังการอนุมัติ Bitcoin ETF แบบ spot เมื่อเดือนมกราคม 2024 ที่ช่วยเพิ่มการยอมรับในหมู่สถาบันการเงิน โดย Bitwise ยังมองว่า Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์แบบสถาบันมากขึ้นเรื่อย ๆ จากความชัดเจนด้านกฎระเบียบ
นักวิเคราะห์ของ Bitwise อย่าง André Dragosch และ Ayush Tripathi คาดว่า Bitcoin อาจพุ่งแตะ 200,000–230,000 ดอลลาร์ในเดือนธันวาคม 2025 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของ Standard Chartered และ H.C. Wainwright ที่ชี้ถึงแรงหนุนจากเงินไหลเข้า ETF และการจัดสรรเงินทุนจากภาคธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัท Strategy ที่ถือครอง Bitcoin จำนวนมาก
โดยล่าสุด ราคา Bitcoin เคลื่อนไหวที่ระดับ 107,523 ดอลลาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2025) ลดลงเล็กน้อยจากจุดสูงสุดตลอดกาล 111,970 ดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยผู้ถือครองระยะยาวที่มีต้นทุนเฉลี่ย 34,414 ดอลลาร์ ขณะนี้มีกำไรที่ยังไม่รับรู้กว่า 215% ส่งผลให้ไม่รีบร้อนขาย ในขณะที่ผู้ถือครองระยะสั้นที่มีต้นทุนเฉลี่ย 97,911 ดอลลาร์ เริ่มเทขายทำกำไรบางส่วน

และภายหลังการ Halving ในเดือนเมษายน 2024 จำนวน Bitcoin ที่ขุดได้ต่อวันเหลือเพียง 450 เหรียญ คิดเป็นมูลค่า 48.3 ล้านดอลลาร์เท่านั้น อีกทั้งรายงานจาก OTC ยังเผยว่าอุปทานแบบ spot ลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางความต้องการจากนักลงทุนสถาบันอย่าง Strategy ที่ถืออยู่กว่า 582,000 BTC และกองทุน Bitcoin ETF ของ BlackRock ที่มีเงินไหลเข้า 4.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก

Michael Saylor ประธานของ Strategy ย้ำว่าอุปทานที่มีจำกัดเพียง 450 BTC ต่อวันนั้น เป็นแรงผลักดันให้ราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อความต้องการจากสถาบันยังคงแข็งแกร่ง
และในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC Horsley ระบุว่า “ปี 2025 เป็นปีแห่งจุดเปลี่ยนสำหรับคริปโต” โดยชี้ถึงกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ระหว่างการเสนอในสหรัฐฯ และการยอมรับของ ETF ที่ขยายวงกว้าง ขณะที่ Matt Hougan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Bitwise คาดว่า Bitcoin จะพุ่งแตะ 200,000 ดอลลาร์ก่อนสิ้นปีนี้ จากแรงสนับสนุนของกองทุนบำนาญและคลังของภาคธุรกิจ
แม้ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค เช่น การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ความล่าช้าในการออกกฎ หรือแรงขายระยะสั้น แต่กระแสจากสถาบันขนาดใหญ่ เช่น การขยายตัวของ ETF โดย BlackRock และการลงทุนจากบริษัทเอกชน อาจเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ราคาขยับเข้าสู่โซน “ไม่อยากขาย” ที่ระดับ 130,000–150,000 ดอลลาร์
ที่มา: ecoinimist

