โฆษกพรรค Bharatiya Janata Party (BJP) ของรัฐบาลอินเดีย Pradeep Bhandari ได้เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาเปิดโครงการนำร่อง “ Bitcoin reserve” เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยระบุว่าอินเดียควรดำเนินรอยตามสหรัฐอเมริกาและภูฏานที่กำลังก้าวสู่ยุคใหม่ของการเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี
Bhandari ชี้ว่า อินเดียมีศักยภาพสูงด้วยระบบพลังงานหมุนเวียนที่กำลังขยายตัว สามารถวางกลยุทธ์ Bitcoin แบบอธิปไตยของตนเองได้อย่างมั่นคง โดยยืนยันว่า “นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงอย่างประมาท แต่เป็นก้าวที่มีการวางแผน เพื่อยอมรับความชอบธรรมของสินทรัพย์ดิจิทัล”
“อินเดียยังไม่มีนโยบายกำกับดูแลคริปโตอย่างชัดเจน แม้จะมีการเก็บภาษีแบบจัดเต็มถึง 30% สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin และ Ethereum ตามมาตรา 115BBH ของกฎหมายภาษี แต่ก็ยังไม่มีข้อกำหนดรองรับในเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นหรือการขาดทุนใด ๆ”
นอกจากนี้ ยังมีการเก็บภาษี ณ ที่จ่าย (TDS) อีก 1% สำหรับธุรกรรมคริปโตที่มีมูลค่าสูงกว่า 115 ดอลลาร์ ซึ่งสร้างภาระให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ขณะที่อินเดียเองเคยร่วมจัดตั้งกลุ่มทำงานเกี่ยวกับคริปโตร่วมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธาน G20 ปี 2023 แต่หลายประเทศก็ยังเดินหน้าคริปโตต่อโดยไม่รอข้อสรุป
Bhandari ยกตัวอย่างว่าสหรัฐฯ มีแผนเพิ่มการถือครอง Bitcoin แบบไม่กระทบงบประมาณ โดยรัฐต่าง ๆ ในประเทศก็เริ่มประกาศใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองแล้ว ซึ่งเป็นจุดที่อินเดียควรเรียนรู้และเริ่มจากการจัดตั้งโครงการนำร่องเพื่อถือครอง Bitcoin
“อินเดียกำลังยืนอยู่บนทางแยกที่สำคัญ กลยุทธ์ Bitcoin ที่รอบคอบ — สิ่งนี้จะช่วยเสริมความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจ และสร้างภาพลักษณ์ความทันสมัยให้กับประเทศ”
ที่มา: Cointelegraph