Bit Digital บริษัทเหมืองคริปโตที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยตัดสินใจเปลี่ยนจากการถือครอง Bitcoin ทั้งหมด มาเป็นการถือครองเหรียญ Ethereum (ETH) แทน พร้อมเผยแผนเน้นสร้างรายได้จากการทำ ETH Staking เต็มรูปแบบ ซึ่งนับว่าเป็นก้าวสำคัญในโลกของคริปโตและตลาดทุน หลังจากระดมทุนเพิ่มผ่านการขายหุ้นมูลค่ากว่า 172 ล้านดอลลาร์ และขาย Bitcoin จำนวน 280 BTC ที่ถืออยู่เดิมออกไป
ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเผยว่า Bit Digital ขยายการถือครอง ETH จากเดิม 24,434 เหรียญเมื่อสิ้นเดือนมีนาคม มาเป็นราว 100,603 เหรียญ คิดเป็นมูลค่ากว่า 189.2 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้บริษัทกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือ ETH มากที่สุดในภาคธุรกิจ ณ เวลานี้ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ธุรกิจเหมือง Bitcoin ต้องเผชิญแรงกดดันจากค่าไฟฟ้าและต้นทุนที่สูงขึ้น หลังผ่านเหตุการณ์ Halving ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้รางวัลที่ได้รับต่อบล็อกลดลงครึ่งหนึ่ง และส่งผลต่อรายได้ของนักขุดอย่างมีนัยสำคัญ แม้ราคาของ BTC จะยังปรับตัวขึ้นก็ตาม
แนวทางใหม่ของ Bit Digital คือการโฟกัสกับรายได้แบบ Passive Income จากการทำ Staking เหรียญ ETH ซึ่งเป็นกลไกที่ช่วยรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย Ethereum โดยผู้ที่ทำ Staking จะมีบทบาทในการตรวจสอบธุรกรรมและสร้างบล็อกใหม่ในระบบ Proof-of-Stake ซึ่งได้รับค่าตอบแทนเป็นรางวัลกลับมา ทำให้บริษัทสามารถวางแผนการเติบโตระยะยาวในโลกคริปโตได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น
หลังจากประกาศแผนเปลี่ยนโฟกัสไปที่ Ethereum ราคาหุ้นของบริษัท (BTBT) ก็พุ่งขึ้นทันที โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 26% แตะระดับ 3.71 ดอลลาร์ จากระดับประมาณ 2 ดอลลาร์ก่อนหน้านั้น แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ตอบรับเชิงบวกต่อกลยุทธ์ใหม่นี้ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดกำลังให้ความสนใจเหรียญ ETH และกลไก Staking มากขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางการปรับตัวของอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีทั่วโลก
ที่มา : coindesk