Ethereum เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางกระแสความสนใจจากสถาบันการเงินที่กลับมาอีกครั้ง และความหวังว่า ราคา ETH จะท้าทายจุดสูงสุดเดิมที่ 4,891 ดอลลาร์ซึ่งทำไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2021
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Ethereum เติบโตเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดด้านการเงินแบบกระจายศูนย์ ( DeFi) ด้วยมูลค่ารวมที่ล็อก (TVL) เกือบ 85,000 ล้านดอลลาร์ และกลายเป็นรากฐานสำคัญของนวัตกรรมในตลาดคริปโต
ประวัติศาสตร์ของ Ethereum เต็มไปด้วยกระแสฮิตต่างๆ เช่น ICO, NFT และ airdrop จาก cointelegraph
จุดเริ่มต้นและ DAO Hack (2015-2016)
Ethereum เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2015 หลังการระดมทุน ICO มูลค่า 18.3 ล้านดอลลาร์ โดยมี Vitalik Buterin เป็นผู้ก่อตั้ง แต่ในปี 2016 โครงการ The DAO ถูกแฮ็กมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ จนทำให้เกิดการ hard fork และแยกเชนออกเป็น Ethereum และ Ethereum Classic ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่กำหนดทิศทางของเครือข่าย
Ethereum Classic ไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือน Ethereum หลังจากการแยกเชน (chain split) จาก CoinGecko
ยุค ICO Boom และ CryptoKitties (2017-2018)
ด้วยมาตรฐานโทเค็น ERC-20 Ethereum กลายเป็นแพลตฟอร์มหลักของการทำ ICO และราคาของ ETH พุ่งจากต่ำกว่า 10 ดอลลาร์ในต้นปี 2017 ไปแตะ 1,450 ดอลลาร์ ในต้นปี 2018 อย่างไรก็ตาม ฟองสบู่แตกเมื่อ SEC เริ่มเข้มงวดกับการระดมทุนผิดกฎหมาย ทำให้ ETH ร่วงลงเหลือเพียง 85 ดอลลาร์ในปลายปี
นอกจากนี้ เกม NFT อย่าง CryptoKitties ยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่จนทำให้ค่าธรรมเนียมและการใช้งานเครือข่ายพุ่งสูง กลายเป็นสัญญาณเตือนเรื่องปัญหาการรองรับธุรกรรม
การพุ่งขึ้นของ Ethereum ในช่วงกระแส ICO บูมจาก CoinGecko
การพุ่งขึ้นของค่าธรรมเนียมแก๊ส (gas fee) บน Ethereum ในช่วงที่ CryptoKitties กำลังได้รับความนิยม เป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาการขยายระบบ (scalability) ในอนาคต จาก Etherscan
DeFi Summer และการฟื้นตัว (2019-2020)
ETH เคลื่อนไหวอยู่ที่ 100-300 ดอลลาร์ในปี 2019 แต่ช่วงกลางปี 2020 กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ DeFi Summer โปรโตคอลอย่าง MakerDAO, Compound และ Uniswap ดันมูลค่า TVL ในระบบทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ และราคาของ ETH ปิดปีที่กว่า 750 ดอลลาร์
NFT Craze และจุดสูงสุดใหม่ (2021)
ปี 2021 Ethereum กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมดิจิทัลด้วย NFT โครงการดังอย่าง CryptoPunks และ Bored Ape Yacht Club ทำให้คนดังและแบรนด์ดังเข้ามาเล่นตลาด NFT อย่างคึกคัก Beeple ศิลปินดิจิทัลขายงาน NFT ในราคา 69 ล้านดอลลาร์ และ ETH พุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 4,891 ดอลลาร์
ซูเปอร์สตาร์ NBA สตีเฟน เคอร์รี เข้าร่วมโครงการ BAYC จาก CryptoStorm
The Merge และตลาดคริปโตทรุด (2022)
ปี 2022 วงการคริปโตเผชิญวิกฤติหลายระลอก ตั้งแต่ Terra ล่มสลายไปจนถึงการล้มของ FTX แต่ Ethereum ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่กับการ The Merge เมื่อ 15 กันยายน 2022 เปลี่ยนจาก Proof-of-Work เป็น Proof-of-Stake เพื่อลดพลังงานและเพิ่มความยั่งยืน
Ethereum เสร็จสิ้นการอัปเกรดครั้งสำคัญในขณะที่ตลาดคริปโตเข้าสู่ความโกลาหลจาก Vitalik Buterin
L2, Rollups และการกระจายตัว (2023-2024)
หลัง The Merge นักพัฒนาหันไปเร่งสร้าง Layer-2 (L2) เช่น Arbitrum, Optimism และ zkSync เกิดกระแส airdrop และการใช้งาน DeFi ที่กระจายตัวมากขึ้น EIP-4844 ในปี 2024 ลดค่าธรรมเนียมและทำให้ rollups เติบโตจนมีมูลค่าล็อกกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม
อย่างไรก็ตาม การกระจายตัวนี้ทำให้สภาพคล่องของ Ethereum แตกเป็นส่วนย่อย ๆ และลดความเชื่อมโยงของโปรโตคอลต่าง ๆ
สถาบันกลับมาหนุน และ ETH ETF แซงหน้า Bitcoin (2025)
ปี 2025 Ethereum กลับมาดึงดูดสถาบันอีกครั้ง หลัง ETF ของ ETH ได้รับการอนุมัติและมียอดไหลเข้ามากกว่า Bitcoin ETF บริษัทมหาชนหลายแห่งเริ่มถือ ETH ตามโมเดลของ MicroStrategy ในการถือ Bitcoin
กองทุน Ethereum ETF มียอดเงินไหลเข้าสุทธิต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม จาก SoSoValue
แม้ ETH เคยร่วงต่ำกว่า 1,500 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน 2025 จากปัญหาภายใน Ethereum Foundation แต่ความเชื่อมั่นจากสถาบันช่วยดันราคากลับขึ้นมาราว 3,800 ดอลลาร์ ในปัจจุบัน
ที่มา: cointelegraph

