หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ถือคริปโตฯ และเคยคิดว่าอยากจะนำมันมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเหมือนเงินปกติ วันนี้คุณสามารถทำมันได้แล้วด้วย Cypher Card บัตรเดบิตคริปโตที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมต่อโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิมอย่าง Visa และ Mastercard ทำให้คุณสามารถใช้คริปโตจ่ายค่ากาแฟหรือซื้อของได้ทุกที่ที่ร้านค้าเหล่านั้นรับบัตรเครดิตหรือเดบิตทั่วไป โดยร้านค้าไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบรับชำระเงินด้วยคริปโตเลย
Cypher Card ไม่ได้มีดีแค่ความสะดวกสบายในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์นักลงทุนคริปโตยุคใหม่ โดยเป็นบัตรเดบิตแบบ Non-custodial Wallet ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานเป็นเจ้าของและสามารถควบคุมสินทรัพย์ของตัวเองได้ 100% ไม่ต้องฝากเงินไว้กับผู้ให้บริการ
เท่านั้นไม่พอ Cypher Card ยังรองรับการทำงานบนบล็อกเชนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, Solana, Polygon, Base, BNB Smart Chain , Avalanche และอื่นๆ รวมกันมากกว่า 25 เชน และยังรองรับเหรียญคริปโตมากกว่า 500 เหรียญ ทำให้คุณสามารถใช้จ่ายเหรียญที่ถืออยู่ได้อย่างสะดวกในกว่า 195 ประเทศทั่วโลก
ในบทความนี้ ทาง Siamblockchain จะมารีวิวขั้นตอนการใช้งานบัตรเดบิต Cypher Card ในชีวิตจริง ให้เห็นภาพอย่างละเอียดยิบ

1.เริ่มต้นง่ายๆ เพียงแค่คุณเข้าไปที่แอป Cypher Wallet และโอนเหรียญคริปโตที่คุณต้องการใช้จ่าย อย่างเช่น ETH หรือ USDC เข้าไปยังกระเป๋าที่เชื่อมต่อกับ Cypher Card
*หมายเหตุ อย่าลืมปรับเครือข่ายการโอนให้ตรงกับกระเป๋าเงินของคุณ ในกรณีนี้เราเลือกใช้เชน Base เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมที่ถูกและมีความน่าเชื่อถือสูง

2.จากนั้นไปที่เมนู Card และกดโอนคริปโตจากกระเป๋าเข้าสู่ตัวบัตร โดยมีบังคับขั้นต่ำครั้งละ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้พร้อมสำหรับการใช้จ่าย โดยคุณจะเสียค่าธรรมเนียม 0.5% สำหรับ USDC เหรียญอื่น 1% เว้นแต่คุณซื้อแพคเกจ Premium ของ Cypher Card เมื่อคุณต้องการซื้อสินค้า เพียงนำบัตรไปเสียบที่เครื่องรับบัตรของร้านค้า เหมือนกับการชำระเงินทั่วไป

3.ชำระเงินที่หน้าร้าน เมื่อคุณต้องการซื้อสินค้า เพียงนำบัตร Cypher Card ไปเสียบที่เครื่องรับบัตร เหมือนกับการชำระเงินทั่วไป

Cypher Card ทำงานอย่างไร?
เบื้องหลังการทำงานที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังของ Cypher Card คือ ระบบ Instant Asset Conversion หรือการแปลงสินทรัพย์แบบทันทีทันใด หลังจากที่คุณเสียบบัตร
1. ในเสี้ยววินาทีที่คุณเสียบบัตร ระบบของ Cypher จะทำการขายคริปโตของคุณในจำนวนที่เท่ากับยอดสินค้าที่ต้องชำระทันที
2. จากนั้น ร้านค้าจะได้รับเงินในสกุลเงินทั่วไป (เช่น เงินบาท) เข้าบัญชีของพวกเขาอย่างสมบูรณ์แบบโดยที่ไม่ต้องรับรู้ถึงกระบวนการแปลงสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
สิ่งที่พิเศษของบัตรใบนี้เลยก็คือ การสมัครใช้งานบัตรเดบิตเสมือน (Virtual Card) ยังสามารถทำได้ฟรี และสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานบัตรแข็ง (Physical Card) แบบพลาสติก จะมีค่าแรกเข้า 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนบัตรเหล็กแบบ Premium จะไม่เสียค่าแรกเข้า แต่จะเสียเป็นรายปีปีละ 199 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ข้อสังเกตที่สำคัญ ในกรณีที่เราใช้งานแพ็คเก็จ Standard การทำธุรกรรมในประเทศที่ไม่ได้ใช้สกุลเงิน USD อย่างในไทย เราจะเสียค่าธรรมเนียม Forex Markup เพิ่มอีก 1% สำหรับทุกการใช้จ่าย ซึ่งหากใช้แพ็คเกจ Premium จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในส่วนนี้
นอกจากนี้ แผน Premium ยังมาพร้อมสิทธิประโยชน์เสริม เช่น Boost Reward ที่ช่วยเพิ่มแต้มสะสมหรือโอกาสได้รับสิทธิพิเศษจากกิจกรรมของแพลตฟอร์ม และการบริการที่ครบกว่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้บัตรในชีวิตประจำวันแบบจริงจัง
ข้อดี
- เหมาะสำหรับผู้ใช้คริปโตที่เน้นด้าน ความปลอดภัย และการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นหลัก
- รองรับ Apple Pay และ Google Pay ใช้ง่ายในการใช้จ่ายออนไลน์และร้านค้าที่รองรับ NFC
- แพ็คเกจ Premium มีบัตรโลหะ (Metal Card) ส่งฟรีทั่วโลก พร้อมยกเลิกค่าธรรมเนียม FX 1%
- สามารถใช้งานบัตรเสมือน (Virtual Card) ได้ฟรี
ข้อเสีย
- มีรายงานจากผู้ใช้จริงว่า ไม่สามารถใช้ได้กับหลายเว็บไซต์/ร้านค้าออนไลน์ในไทย และการ KYC มีปัญหา
- แพ็คเกจ Standard (แบบฟรี) จะเสียค่าธรรมเนียมมากว่าแพ็คเกจ Premium (เสียเงิน)
- ยังไม่มีระบบคืนเงิน (Cashback) ตรง ๆ แบบบัตรคู่แข่ง (เช่น Ether.fi Card) ทำให้ผู้ใช้ได้แต่แต้ม/รีวอร์ดแทน
โดยสรุปแล้ว Cypher Card ถือเป็นนวัตกรรมที่น่าจับตามองในโลกการเงิน เป็นเครื่องมือที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างโลกคริปโตกับโลกแห่งความจริงได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายออนไลน์ผ่าน Apple Pay หรือ Google Pay หรือการใช้บัตรจริงสำหรับการซื้อสินค้าและบริการ ทำให้การใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อการใช้จ่าย ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายสำหรับทุกคนครับ
สำหรับใครที่สนใจ สามารถดาวน์โหลดแอป Cypher Wallet ได้ที่ลิงก์นี้

