<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

OP_CAT คืออะไร ? โค้ดต้องห้ามของ Bitcoin ที่อาจปลดล็อกกลับมาใช้งานใหม่อีกครั้ง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Bitcoin กำลังยืนอยู่บนทางแยกครั้งใหญ่ที่อาจเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของมันไปตลอดกาล เมื่อ Bruce Liu ผู้ก่อตั้ง OPCAT_Labs ลุกขึ้นมาปลุกชีพ “OP_CAT” โค้ดเก่าที่ซ่อนอยู่ในระบบมาตั้งแต่ยุคของ Satoshi Nakamoto โค้ดเล็ก ๆ ที่ถูกปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 2010 กำลังถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง และครั้งนี้อาจไม่ใช่เพียงการถกเถียง แต่เป็นการปฏิวัติที่แท้จริง

Liu เปรียบเทียบ Bitcoin ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ว่าเหมือนกับ “เครื่องบินจัมโบ้ที่ไม่มีปีก” มีพลัง มีขนาดใหญ่ แต่ไม่อาจทะยานขึ้นฟ้าได้ ขณะที่บล็อกเชนรุ่นน้องอย่าง Ethereum และ Solana กลับกางปีกบินไปไกลกว่าแล้ว จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ OP_CAT หากเปิดใช้งานขึ้นมา มันจะทำให้ Bitcoin กลายเป็น “เงินที่ตั้งโปรแกรมได้” (programmable money) และสามารถแข่งขันในสนามเดียวกับ Ethereum ได้อย่างสมศักดิ์ศรี

สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ยิ่งน่าสนใจคือ OP_CAT ไม่ใช่โค้ดใหม่ ไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ที่ถูกยัดเข้าไปทีหลัง มันคือโค้ดที่ Satoshi เขียนไว้ตั้งแต่วันแรก แต่เลือกจะปิดการใช้งานเอาไว้เฉย ๆ ต้นเหตุจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย Liu จึงมองว่านี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลง Bitcoin แต่เป็นการ คืนชีพเจตนารมณ์ดั้งเดิมของผู้สร้าง

แน่นอนว่ามีเสียงคัดค้านมากมาย ชุมชน Bitcoin ส่วนหนึ่งเชื่อมั่นว่า BTC ควรยืนหยัดในฐานะ “ทองคำดิจิทัล” ไม่จำเป็นต้องแข่งกับความสามารถด้าน smart contract ของใคร พวกเขากังวลว่าการไปไกลเกินกว่านี้ อาจนำความเสี่ยงที่ไม่คาดคิดเข้ามาและบั่นทอนความมั่นคงที่กว่าจะสร้างมาได้กว่า 15 ปี

แต่ Liu ไม่เห็นด้วย เขายกคำพูดเก่าของ Satoshi มาโต้กลับ ถ้า Bitcoin มีไว้เพื่อจ่ายเงินอย่างเดียว ทำไม Satoshi ต้องเขียน Script นี้ใส่เข้ามาตั้งแต่แรก? คำถามนี้คือหัวใจที่ทำให้การรื้อฟื้น OP_CAT ถูกมองว่าเป็นการ เติมเต็มสิ่งที่ Satoshi วางไว้ มากกว่าการดัดแปลงไปสู่สิ่งใหม่ ๆ

เพื่อตอกย้ำความจริงจัง OPCAT_Labs ไม่ได้หยุดอยู่แค่คำพูด พวกเขาสร้าง Bitcoin fork ที่เปิดใช้งาน OP_CAT แล้วจริง ๆ พร้อมโชว์ศักยภาพให้เห็นชัด รวมถึงการพัฒนา SDK และ API ที่จะทำให้นักพัฒนา Web2 สามารถเข้ามาสร้างแอปพลิเคชันบน Bitcoin ได้ง่ายขึ้น นี่คือการโยนหินถามทางอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากเกมเทคนิค Liu ยังเล่นเกมการเมือง เขาจับมือกับ Mate Tokay และ Roger Ver เพื่อสร้างกลุ่มพันธมิตรผู้สนับสนุน OP_CAT รวมพลังจากกลุ่มต่าง ๆ เช่น Taproot Wizards และ StarkWare ที่ก่อนหน้านี้เสียงยังแตกกระจาย Liu เชื่อว่า ถ้าจัดระเบียบและรวมพลังให้เป็นหนึ่งเดียว เสียงสนับสนุนที่กระจัดกระจาย 90% จะกลายเป็นแรงกดดันที่สังคมบิตคอยน์ต้องยอมรับฟัง

Mate Tokay เองก็ออกมาเสริมว่า การรณรงค์ครั้งนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงนักพัฒนา แต่ยังรวมถึงกองทุน สถาบัน และนักการเมือง ที่วันนี้อาจยังมอง Bitcoin แค่เป็นสินทรัพย์สำรอง แต่ไม่เคยเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของมัน “ถ้าพวกเขารู้ว่า OP_CAT ปลดล็อกอะไรได้บ้าง พวกเขาจะตื่นเต้นกับอนาคตของ Bitcoin มากกว่านี้แน่นอน”

Liu ตั้งเป้าใหญ่ เขาจะใช้เวที Bitcoin Asia ปีหน้า ในการโชว์แอป DeFi ที่ทำงานจริงบนเครือข่าย Bitcoin นี่อาจเป็นการประกาศว่า Bitcoin ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นทองคำดิจิทัล แต่พร้อมจะกางปีกสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่มีชีวิต

สำหรับนักลงทุนไทย เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การถกเถียงเชิงเทคนิค แต่คือ สัญญาณการเปลี่ยนผ่าน หาก OP_CAT ได้รับไฟเขียว Bitcoin อาจก้าวจากสินทรัพย์เก็บค่า ไปสู่สนามแข่งขันด้านนวัตกรรมที่ไม่เคยเข้าถึงมาก่อน แต่ถ้าถูกปัดตก มันก็อาจยังคงยืนหยัดในบทบาทเดิม ขณะที่บล็อกเชนอื่น ๆ วิ่งนำไปเรื่อย ๆ คำถามที่น่าคิดคือ เราอยากเห็น Bitcoin เป็นเพียง “ทองคำดิจิทัล” หรืออยากเห็นมันกางปีกบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง?

ที่มา : coindesk