กระแสข่าวลือเกี่ยวกับ Exchange สัญชาติไทยที่ถูกแฮ็กยังคงร้อนแรงในโลกโซเชียล หลังมีการเผยแพร่เอกสารซึ่งอ้างว่าเป็นหลักฐานการถูกแฮ็กและมีเงินดิจิทัลจำนวนมากถูกย้ายออกจาก Wallet ล่าสุดเริ่มมีการตั้งข้อสงสัยว่าเอกสารดังกล่าว อาจไม่ใช่เอกสารจริง พร้อมทั้งมีการจับตาผลกระทบที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาด
ตรวจสอบแล้ว ไม่ใช่ฟอร์มตำรวจ
เพจ โคตรมีมเลย Crypto Meme ระบุว่าได้ทำการตรวจสอบกับหน่วยงานตำรวจ เพื่อยืนยันว่าเอกสารที่ปรากฏในโลกออนไลน์นั้นเป็น ฟอร์มบันทึกคำร้องของสำนักงานตำรวจจริงหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า “ไม่ใช่เอกสารของสำนักงานตำรวจ”

สิ่งที่ถูกตั้งคำถามคือ การที่เอกสารมีการระบุตำแหน่งและช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน ซึ่งปกติแล้วหากเป็นเอกสารจากหน่วยงานเอกชน ไม่น่าจะใช้รูปแบบนี้
จุดน่าสงสัยในเอกสาร
นอกจากรูปแบบของเอกสารแล้ว ยังมีรายละเอียดที่ถูกจับตา เช่น
- มีการใช้ข้อความว่า “ได้รับการแจ้งจาก Operation ว่าต้องการโอนเหรียญออก แต่เหรียญมีการติด Diff …” ซึ่งถูกตั้งคำถามว่า “Operation” หมายถึงใคร หากเป็นการบันทึกเหตุจากผู้ใช้งาน เหตุใดจึงมีการอ้างถึง Operation ในเอกสาร
- ลักษณะเอกสารบางส่วนดูคล้ายการ Phishing หรือสร้างสถานการณ์ปลอม
- ปริมาณเหรียญที่ระบุใน Wallet มีมูลค่าสูงมากจนถูกมองว่า “เยอะเกินจริง”
3 สมมติฐานที่ถูกพูดถึง
ผู้ที่ติดตามเรื่องนี้เสนอความเป็นไปได้ 3 แนวทางคือ
- เป็นเอกสารภายในของ Exchange แต่หลุดออกมาในรูปแบบที่คล้ายบันทึกคำร้อง
- เป็นการสร้างเรื่องเพื่อหลอกลวง (Phishing) โดยนำข้อมูลบางส่วนมาประกอบให้ดูสมจริง
- เอกสารอาจถูกสร้างขึ้นเองตั้งแต่ต้น และไม่ได้มีเหตุการณ์แฮ็กจริง
ก.ล.ต. เข้าตรวจสอบ
ท่ามกลางกระแสข่าวที่ยังไร้ข้อยืนยัน ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ประสานงานไปยังผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องให้เร่งตรวจสอบ พร้อมรายงานให้ ก.ล.ต. ทราบโดยเร็ว

ก.ล.ต. ยังได้กำชับให้ผู้ประกอบการชี้แจงและตอบคำถามของผู้ใช้บริการอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริงผ่านช่องทางทางการ เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกในตลาด โดยผู้ลงทุนสามารถติดตามความคืบหน้าได้จากเว็บไซต์และเฟซบุ๊กของ ก.ล.ต. รวมทั้งช่องทางการสื่อสารของผู้ประกอบธุรกิจโดยตรง
สถานการณ์ที่ต้องจับตา
ในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า Exchange ที่ถูกอ้างถึงนั้น ถูกแฮ็กจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่เห็นชัดคือ ความเชื่อมั่นของผู้ใช้งานและนักลงทุนได้ถูกสั่นคลอนแล้ว ซึ่งหาก Exchange ที่ถูกพาดพิงไม่รีบออกมาชี้แจง ความเสียหายด้านภาพลักษณ์อาจเกิดขึ้นก่อนความจริงจะปรากฏ

