Deutsche Bank (DBK) ธนาคารยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี ได้ออกมาคาดการณ์ครั้งสำคัญในรายงานฉบับวันจันทร์ โดยฟันธงว่า Bitcoin กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะได้รับการยอมรับในฐานะ “สินทรัพย์สำรอง” (Reserve Asset) ของธนาคารกลางทั่วโลก เคียงคู่กับทองคำภายในทศวรรษนี้ แม้ว่าในปัจจุบันทองคำจะยังคงเป็นพี่ใหญ่ที่ครองสัดส่วนการถือครองอย่างเป็นทางการอยู่ก็ตาม
รายงานระบุว่า แม้ปัจจุบันเงินดอลลาร์สหรัฐจะยังคงมีสัดส่วนสูงถึง 57% ของทุนสำรองทั่วโลก แต่สัญญาณของการกระจายความเสี่ยงก็เริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยจีนได้ลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลงถึง 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2024 ขณะที่กระแสการออกกฎหมายกำกับดูแลคริปโตก็กำลังก่อตัวขึ้นในตลาดสำคัญๆ ทั่วโลก
Deutsche Bank มองว่า Bitcoin และทองคำจะยังคงอยู่ร่วมกันในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ “เติมเต็มซึ่งกันและกัน” เนื่องจากคุณสมบัติเด่นในด้านความหายาก (Scarcity) และการที่ราคาไม่ค่อยเคลื่อนไหวตามสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ
‘ความผันผวน’ ลดลง-ปูทางสู่การยอมรับในฐานะสินทรัพย์สำรอง
แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดที่นักวิเคราะห์ของธนาคารชี้คือ “ความผันผวน” ของ Bitcoin ซึ่งเคยเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์สำรอง กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยความผันผวนในรอบ 30 วันได้แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนสิงหาคม แม้ว่าราคาจะพุ่งทะยานทำสถิติใหม่เหนือ 123,500 ดอลลาร์ก็ตาม ซึ่งบ่งชี้ว่าสกุลเงินดิจิทัลนี้อาจกำลัง “สลัดภาพ” อดีตที่เต็มไปด้วยการเก็งกำไรทิ้งไป
ธนาคารมองว่าเส้นทางการยอมรับ Bitcoin จะดำเนินไปในลักษณะเดียวกับทองคำ คือการเปลี่ยนผ่านจากความกังขาไปสู่การยอมรับในวงกว้าง โดยมีกฎระเบียบ, แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และกาลเวลาเป็นตัวปูทาง
ในขณะที่นักลงทุนยังคงมองหาทางเลือกนอกเหนือจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิม Bitcoin ก็อาจจะสามารถวิวัฒนาการตัวเองจากการเป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร ไปสู่การเป็น “เสาหลักที่ถูกกฎหมาย” ของระบบการเงินโลกได้ในที่สุด รายงานสรุป
ที่มา: coindesk

