วันนี้ (8 ตุลาคม) ตลาดคริปโตได้เผชิญกับแรงเทขายแบบไม่ทันตั้งตัว หลังจากราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรงจากจุดสูงสุดใหม่ที่ $126,000 ซึ่งทำไว้เมื่อไม่นานมานี้
อ้างอิงข้อมูลจากกราฟ BTC/USD พบว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ได้ปรับตัวลดลงกว่า 2.4% จากจุดสูงสุดระหว่างวันที่ $125,126 ลงมาทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ $120,575 ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาเล็กน้อยที่ $121,876 ในขณะที่รายงาน

สำหรับสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังการร่วงของราคา Bitcoin ในวันนี้ นักวิเคราะห์คาดว่ามีอยู่ 3 ประการหลัก ๆ ประการแรกคือแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนระยะสั้น หลังจากที่ราคาของบิตคอยน์ได้พุ่งขึ้นเกือบเท่าตัวภายในปีเดียว นักลงทุนบางส่วนจึงเริ่มทยอยขายเพื่อล็อกกำไรและลดความเสี่ยง ส่งผลให้เกิดแรงเทขายกระจายไปทั่วตลาดในช่วงสั้น ๆ
ประการที่สองคือ การเคลื่อนไหวของเจ้ามือรายใหญ่ โดยมีรายงานว่ากระเป๋าเงินที่ถือครอง Bitcoin มูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ได้ทำการโอนย้ายเหรียญเพื่อเตรียมแลกเปลี่ยนผ่านตลาด OTC แม้ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาในตลาด แต่ก็สร้างความวิตกกังวลในวงกว้าง เพราะกระเป๋าเงินดังกล่าวเป็นรายเดียวกับที่เคยโอน Ethereum มูลค่ากว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ส่วนประการสุดท้ายเป็นปัจจัยทางเทคนิค โดยดัชนี RSI ของ Bitcoin ยังคงอยู่ในโซน Overbought มาหลายวัน ประกอบกับราคาที่ไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านสำคัญที่ระดับ 126,000 ดอลลาร์ได้ ส่งผลให้แนวรับหลักใหม่ของตลาดถูกปรับลงมาที่บริเวณ 117,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะ 50 วัน (EMA 50) และอาจเป็นจุดที่นักลงทุนใช้ประเมินแรงซื้อในรอบถัดไป
ขณะเดียวกันทางฝั่งของ Altcoinหลายตัวต้องเผชิญกับแรงขายที่รุนแรงยิ่งกว่า โดยเฉพาะกลุ่มเหรียญที่ไม่ได้อยู่ในเครือ BNB Chain ซึ่งปรับตัวลงแทบทั้งหมด อาทิ ZEC ร่วงกว่า 18.4%, XPL ลดลง 14.6%, AVAX -7.26% และ WLD -8.5% ส่วนเหรียญหลักอย่าง Ethereum และ Solana ก็ไม่รอด โดยร่วงลง 4.12% และ 4.45% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายรายยังคงมองในเชิงบวก โดยระบุว่าการย่อตัวในครั้งนี้ถือเป็นการพักฐานตามรอบปกติของตลาดขาขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากราคาทำจุดสูงสุดใหม่ในช่วงสั้น ๆ ทั้งนี้ ตลาดคริปโตโดยรวมยังถือว่ามีสุขภาพดี และมีแนวโน้มว่าราคาจะเริ่มฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมักเป็นช่วงที่ตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้งในทุกวัฏจักรของรอบขาขึ้น

