สถานการณ์ Government Shutdown หรือการที่หน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ต้องปิดทำการชั่วคราว ได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 22 แล้วในขณะนี้ ทำลายสถิติกลายเป็นครั้งที่ยาวนานที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยมีสาเหตุมาจากภาวะ “ทางตัน” ทางการเมือง เมื่อสองพรรคใหญ่ไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นเงินอุดหนุนด้านสุขภาพที่กำลังจะหมดอายุลง
ส่อเค้ายืดเยื้อ-อาจทุบสถิติเดิม
ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมตัวเดินทางเยือนเอเชียในปลายสัปดาห์นี้ บรรยากาศในสภาคองเกรสกลับเต็มไปด้วยความอึมครึม นักการเมืองหลายฝ่ายมองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่วิกฤตครั้งนี้จะลากยาวไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน และอาจทำลายสถิติการ Shutdown นาน 35 วันในสมัยแรกของทรัมป์ได้
การประชุมเมื่อวันอังคารที่ทำเนียบขาวระหว่างทรัมป์และ ส.ว. รีพับลิกัน ดูเหมือนจะยิ่งทำให้จุดยืนของพรรครีพับลิกันแข็งกร้าวขึ้นที่จะไม่ยอมเจรจากับพรรคเดโมแครต ซึ่งฝ่ายเดโมแครตได้ยื่นเงื่อนไขว่า รัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกัน 22 ล้านคนที่จะได้รับผลกระทบจากค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่พุ่งสูงขึ้น เพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณให้รัฐบาลกลับมาเปิดทำการได้
“จุดยืนเราชัดเจน: เราจะไม่ยอมถูกขู่เอาอะไรด้วยแผนบ้าๆ ของพวกเขา” ทรัมป์กล่าวอย่างแข็งกร้าว
ผลกระทบเศรษฐกิจเริ่มหนัก-ข้าราชการจ่ออดเงินเดือน
ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการ Shutdown กำลังจะรุนแรงขึ้นในสัปดาห์นี้ เมื่อข้าราชการพลเรือนจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับเงินเดือนเพียงบางส่วน กำลังจะ “ไม่ได้รับเงินเดือนเต็มจำนวน” เป็นครั้งแรกในวันศุกร์นี้
ทำเนียบขาวยังได้ออกมาเตือนว่า รัฐบาลอาจจะไม่สามารถ “หมุนเงิน” ด้วยวิธีที่ไม่ปกติ (และอาจผิดกฎหมาย) เพื่อจ่ายเงินเดือนให้กับทหารต่อไปได้ และอาจส่งผลให้โครงการช่วยเหลือด้านอาหารต้องหยุดชะงักในเดือนหน้า
แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ผลกระทบจะรุนแรงเป็นพิเศษในเขตวอชิงตัน ซึ่งเป็นศูนย์รวมของข้าราชการและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
ทางตันทางการเมือง-ไร้วี่แววประนีประนอม
สถานการณ์ในสภาคองเกรสยังคงตึงเครียด ส.ส. พรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับบ้านไปแล้ว และประธานสภา ไมค์ จอห์นสัน ก็ยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจาใดๆ “ไม่มีอะไรต้องเจรจา” จอห์นสันกล่าว
ในขณะที่ทำเนียบขาวก็ได้ขู่ว่าจะ “เอาคืน” เดโมแครตด้วยการยกเลิกโครงการต่างๆ ในรัฐที่เดโมแครตครองเสียงข้างมาก และได้พยายามเลิกจ้างเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมาก ซึ่งถูกศาลสั่งระงับชั่วคราว
แม้จะมีการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการระหว่าง ส.ว. สายกลาง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ส.ว. จีนน์ ชาฮีน จากพรรคเดโมแครตถึงกับส่ายหัวเมื่อถูกถามถึงทางออก โดยตอบเพียงว่า “ไม่เห็นทางออกเลย”
ที่มา: bloomberg

