นักวิเคราะห์หลายรายเริ่มส่งสัญญาณเตือนว่า ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2026 อาจเป็นตัวเร่งให้ตลาดคริปโตเกิดการปรับฐานราคาแบบไม่ทันตั้งตัวได้
มาร์คัส ไธเลน ผู้ก่อตั้ง และหัวหน้าทีมวิเคราะห์ของ 10x Research ชี้ว่า หากพิจารณาจากสถิติในอดีต ราคา Bitcoin มักจะปรับฐานอย่างรุนแรงในปีที่มีการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ โดยราคาบิทคอยน์อาจเผชิญการร่วงลงถึง 60% ได้ในปี 2026
มาร์คัส ไธเลน เตือนว่า สถานการณ์ในรอบนี้อาจจะรุนแรงยิ่งขึ้น หากสัญญาณในเชิงลบจากข้อมูลบนบล็อกเชนยังคงอยู่ และสถาบันการเงินขนาดใหญ่ได้เริ่มลดจำนวนการเข้าซื้อเหรียญลงไปอีก
มาร์คัส ไธเลน กล่าวว่า “จากอดีต ราคา Bitcoin เคยร่วงลงเฉลี่ยประมาณ 60% ในปีที่มีการเลือกตั้งกลางเทอม เว้นแต่ว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะลดแรง และ Fed หันมาใช้นโยบายผ่อนคลายสุด ๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้น ถ้ามีการเปลี่ยนประธาน Fed คนใหม่”
มาร์คัส ไธเลน ยังกล่าวเสริมอีกว่า กระเป๋าเงินของนักลงทุนหน้าใหม่จำนวนมาก กำลังอยู่ในสถานะขาดทุนประมาณ 10-20% และสุดท้ายอาจจำใจเทขายเหรียญออกพร้อมกัน ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้ราคา Bitcoin ร่วงหนักลงไปอีก
10x Research เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ตลาดคริปโต โดยเน้นที่โครงสร้างตลาด, ตราสารอนุพันธ์, และกระแสเงินทุนเข้าออก ซึ่งตามรายงานล่าสุดของบริษัทชี้ว่า ความเสี่ยงต่อราคา Bitcoin อาจไม่ได้มาจากแค่สภาพตลาดคริปโตภายในเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่มาจาก ปัจจัยมหภาค (Macro Factors) ภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไป
ในขณะที่รายงาน ราคา Bitcoin กำลังซื้อขายอยู่ที่ 90,463 ดอลลาร์ ลดลง 0.58% ภายใน 24 ชั่วโมง อ้างอิงข้อมูลจาก coinmarketcap

ที่มา : cryptobriefing

