(15 ธ.ค. 2025) – Ripple ผู้ให้บริการโซลูชันบล็อกเชนและการชำระเงินระดับโลก ประกาศความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในการขยายระบบนิเวศ โดยเตรียมนำ “RLUSD” (Ripple USD) ซึ่งเป็น Stablecoin ที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐฯ และอยู่ภายใต้การกำกับดูแล ขยายฐานไปสู่เครือข่าย Ethereum Layer 2 (L2) ชั้นนำ ได้แก่ Optimism, Base, Ink และ Unichain
การขยายเครือข่ายในครั้งนี้ Ripple ได้จับมือกับ Wormhole โดยใช้มาตรฐาน Native Token Transfer (NTT) เพื่อให้การโอนย้ายสินทรัพย์ข้ามเชนมีความปลอดภัยและเป็นรูปแบบ Native ซึ่งหากได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล (เช่น NYDFS) จะส่งผลให้ RLUSD กลายเป็น Stablecoin สัญชาติสหรัฐฯ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล (Trust-regulated) รายแรกที่เปิดให้บริการบนเครือข่าย L2 เหล่านี้
ความร่วมมือนี้เป็นการต่อยอดจากการที่ Ripple ได้บูรณาการ Wormhole เข้ากับ XRP Ledger (XRPL) ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา โดยเป้าหมายสำคัญคือการเพิ่มประโยชน์การใช้งาน (Utility) ให้กับทั้ง RLUSD และเหรียญ XRP
นอกจากการนำ RLUSD ไปสู่ L2 แล้ว การเชื่อมต่อนี้ยังเปิดทางให้มีการสร้างคู่สภาพคล่องของ Wrapped XRP (wXRP)บนเครือข่ายปลายทางเหล่านั้นด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ถือ XRP สามารถนำสินทรัพย์ไปใช้งานในแอปพลิเคชัน DeFi ต่างๆ ได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนเหรียญ (Swaps) หรือการปล่อยกู้ (Lending) ข้ามบล็อกเชน ซึ่งเป็นการขยายการใช้งาน XRP ให้ไปไกลกว่าระบบนิเวศเดิมของ XRPL
ปัจจุบัน RLUSD มีมูลค่าตลาดรวมใกล้แตะระดับ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความต้องการใช้งานแบบ Multichain ที่เพิ่มสูงขึ้น กลยุทธ์การบุก Ethereum L2 ในครั้งนี้ จึงเป็นการวางตำแหน่งให้ Ripple สามารถดึงดูดการยอมรับจากนักลงทุนสถาบันที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (Compliance) พร้อมทั้งช่วยแก้ปัญหาการกระจัดกระจายของสภาพคล่องในโลกบล็อกเชนไปในตัว
ที่มา: @Ripple

