บริษัทคลังทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ DAT ปัจจุบันได้ประสบปัญหากันถ้วนหน้าเพราะตลาดคริปโตนั้นไม่เป็นใจในปี 2025 แต่สถานการณ์ในปีหน้าอาจจะรุนแรงยิ่งกว่า
Altan Tutar ซีอีโอของแพลตฟอร์ม crypto yield ที่ชื่อ Mormerkets เปิดเผยว่า 2026 จะเป็นปีที่ย่ำแย่มากสำหรับเหล่าบริษัท DATs เพราะตลอดปีที่ผ่านมานี้มีบริษัทจำนวนมากที่ตามกระแสตั้งคลังทุนสำรองคริปโตขึ้นมา เพื่อมอบทางเลือกให้กับนักลงทุนใน Wall Street
ในขณะที่ตลาดยังคงเติบโต หุ้นของบริษัทเหล่านีเต่างพุ่งทะยานอย่างรุนแรงยิ่งกว่าสินทรัพย์ที่พวกเขาถือ แต่เมื่อทุกอย่างพลิกผันก็ถึงเวลาที่ตลาดจะต้องคัดสรรและลดจำนวนลง โดย Tutar มองว่า “บริษัทคลังคริปโตส่วนใหญ่” ซึ่งรวมไปถึงบริษัทที่ถือ Bitcoin เองก็ตาม จะเลือนหายไป
เขามองว่าบริษัทที่เลือกถือ “Altcoins” จะเป็นรายแรกที่ต้องโบกมือลาก่อนเพราะไม่สามารถทำให้มูลค่าของบริษัทเหนือกว่าคริปโตที่พวกเขาถือ หรือ mNAV จากนั้น บริษัทที่ทำการถือเหรียญหลักจำพวก Ethereum , Solana , XRP จะเป็นกลุ่มที่สองที่ได้รับผลกระทบและทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมากเช่นกัน
ทั้งนี้ Tutar อธิบายว่าในการที่บริษัทคลังคริปโตจะสามารถยืนหยัดได้นั้น ตัวบริษัทเองจำเป็นที่จะต้องมีคุณค่าที่แท้จริงที่ผู้ถือหุ้นยอมรับ และสามารถสร้างผลกำไรชัดเจนและแข็งแกร่ง มากกว่าแค่การถือเหรียญเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน Ryan Chow ผู้ร่วมก่อตั้ง Solv Protocol เผยว่าจำนวนของบริษัทที่ทำการถือครอง Bitcoin ได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จาก 70 เป็น 130 ภายในปี 2025 นี้ และเขาเองก็มองแบบเดียวกันว่าบริษัทส่วนใหญ่จะไปไม่รอด เพราะ Bitcoin ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษที่เสกเงินแบบไม่จำกัดออกมาได้
ซึ่งผู้ชนะที่แท้จริงจะเป็นบริษัทที่ใช้ Bitcoin เป็นส่วนหนึ่งหรือทางเลือกของกลยุทธ์เท่านั้น ส่วนบริษัทที่อันตรายที่สุดคือบริษัทที่จำเป็นต้องขายคริปโตเพื่อมาแบกค่าใช้จ่าย เพราะบริษัทเหล่านี้ทำการซื้อเพราะเล่นตามกระแสเก็งกำไร ไม่ได้มีการตั้งกรอบดูแลจริงๆจังๆ
สุดท้ายนี้ Vincent Chok ซีอีโอของบริษัทผู้ออกเหรียญ Stablecoin First Digital มองว่านักลงทุนเริ่มให้ความสนใจในกองทุน ETFs มากกว่า เพราะเป็นวิธีที่ง่ายในการเข้าถึงคริปโตที่มีการกำกับดูแล โดย ETFs ถือเป็นคู่แข่งอันดับต้นๆ ของบริษัทคลังคริปโตโดยตรง
สำหรับสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าผู้จัดการกองทุนมักออกผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนจากการ Staking ทำให้กองทุน ETFs มีความน่าสนใจ
ดังนั้น บริษัทคลังคริปโตจึงจำเป็นที่จะต้องวิวัฒนาการให้ทันกับความคาดหวังของนักลงทุนในตลาดดั้งเดิม ทั้งในเรื่องของ ความโปร่งใส , การตรวจสอบ , และการปฏิบัติตามกฎ เหมือนกับ ETFs
ที่มา : Cointelegraph

