“เห้ย! นั่นจรวดสยามบล็อกเชนมาอีกแล้ว รีบเทขายเร็ว!”
คำกล่าวเหน็บแนมติดตลกในโลกโซเชียลของนักเทรดคริปโตในไทยที่ ณ ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักจรวดสยามบล็อกเชนที่มักจะมาในช่วงที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง และมักจะมาพร้อมกับคำตำหนิในบางครั้งว่าพยายามปั่นกระแสสวนทางกับตลาด
แต่หากลองย้อนกลับไปดูเมื่อช่วงปีที่แล้ว หรือปี 2017 ที่นักเทรดหลาย ๆ คนต่างก็แฮปปี้กับสภาพราคาของเหรียญคริปโตแทบจะทุกตัวในตลาด มองไปเหรียญไหนก็มีแต่สีเขียว ซื้อตัวไหนก็แทบจะกำไรทุกตัว ไม่มีการมาเหน็บแนมรูปจรวดแม้แต่นิดเดียว เพราะทุก ๆ คนต่างก็มีความสุขกับการทำกำไร จนกระทั่งมาถึงปี 2018 คำถามที่ตามมาคือเกิดอะไรขึ้นกับตลาดในช่วงนี้ แล้วทำไมหลาย ๆ คนถึงถอดใจออกจากวงการไป แล้วทำไมบางคนถึงกับร้องห่มร้องไห้กับเงินที่สูญเสียไปให้กับความเกรี้ยวกราดของตลาด ที่มันช่างต่างกับของปีที่แล้วอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ?
จมูกแดง ตาแดง
เป็นเรื่องธรรมดาของคนขาดทุน ที่จะมีอารมณ์ที่เสียง่าย และมีความแปรปรวน
แต่หากลองหันมาดูสักนิดว่าตลาดของ Bitcoin ที่ทุก ๆ คนยกให้เป็น benchmark คอยวัดตลาดคริปโตโดยรวมทั้งหมดนั้นในอดีตมันเคยผ่านอะไรมาแล้วบ้าง
“แต่พี่ครับ ผมไม่ไหวแล้ว ต้นทุนของผมที่เข้ามาในตลาดนั้นมันสูงมากเลย! ฮือ”
เข้าใจครับ ถ้าคุณผู้อ่านยังทนมาได้ถึงตอนนี้ เพราะใช้เงินเย็นที่ลงทุน และยังทนต่อไปได้เรื่อย ๆ ลองดูกราฟการเปรียบเทียบราคาของ Bitcoin กับทองคำที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานก่อนที่จะมี ETF ดูก็อาจจะพอที่จะเห็นอะไรบางอย่าง
กลั้นหายใจ
ลองดูกราฟในอดีตของ Bitcoin ของในช่วงปี 2011 แถว ๆ เดือนมิถุนายนตามกราฟด้านล่างแล้วลองจินตนาการว่าคุณคือหนึ่งในคนที่ซื้อ Bitcoin ณ จุดที่ Top ของเวลานั้นที่ราคา 30 ดอลลาร์
ใช่ครับ Bitcoin ณ ที่ราคา 30 ดอลลาร์ ถ้าคุณเป็นคน ๆ นั้นในตอนนั้น ผมก็คงพอจะเดาออกว่าคงจะ ‘Cry’ ไปเรียบร้อยแล้ว
แต่ถ้าหากว่าคุณกลั้นหายใจ และพยายามไม่ร้องมันออกมา ถัดไปหลังจากนั้นสักปีกว่า ๆ จนถึงวันที่ 9 สิงหาคม 2013 ราคาของ Bitcoin ก็วิ่งขึ้นมาแตะ 230 ดอลลาร์
ลองนึกดูว่าถ้าสมมติคุณเป็น Trader รุ่นที่ 1 (TRD48r รุ่นที่ 1) ถ้าคุณยังคงอดทนไว้ ไม่ร้องไห้ตั้งแต่ตอนนั้น คุณเฝ้ารอแล้วรอเล่า และยังคงมีความอดทน ลองจินตนาการดูถึงความหอมหวานในวันที่ 9 สิงหาคม 2013
และก็เช่นกัน สมมติว่าหากมีคนที่เป็น Trader รุ่นที่ 2 เข้ามาในช่วงเวลาเดียวกันและซื้อ Bitcoin ต่อไปจากคุณที่ top (ในกรณีที่คุณขาย) เขาก็คงอาจจะมีสภาพไม่ต่างจากคุณเมื่อตอนปี 2011
หากแต่ตลาดคริปโตนั้นไม่ได้หยุดนิ่ง มัน “สร้าง Trader รุ่นใหม่ออกมาเรื่อย ๆ” มีผู้คนที่อดทน ผ่านจุด ๆ ที่ย่ำแย่ที่สุดมาได้ และยังคงไม่ย่อท้อ
ผมไม่อาจจะทราบได้ว่าตอนนี้ตลาด Bitcoin ได้ทำการ “รันโปรแกรมฝึก Trader มาถึงรุ่นที่เท่าไรแล้ว” แต่ล่าสุดเมื่อปีที่แล้วราคาของมันได้ขึ้นไปแตะ 20,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะลงมาถึง 6,400 ดอลลาร์ในปัจจุบัน ซึ่งมาถึงจุด ๆ นี้สำหรับคนที่พอมองออกก็คงจะทราบดีว่าบทความนี้กำลังพยายามจะสื่อถึงอะไร
กลับมาเป็นปกติ
“Traders ที่วางแผนมาดี เขาไม่ร้องไห้กันหรอก” กล่าวโดยผู้ก่อตั้ง Siam Blockchain
โปรดจำไว้ว่าตลาดที่ปกติและมีสุขภาพดีนั้น มันมีกลไกราคาที่ขึ้นและลงตลอด เพื่อคงความสมดุลของตลาด และนั่นคือธรรมชาติที่สวยงาม
หากจรวดมีพุ่งขึ้น ก็ต้องมีวันพุ่งลงบ้างเช่นกัน
อ่านเพิ่มเติม Cryptocurrency นั้นทำให้คุณรวยขึ้นแล้ว แต่คุณอาจไม่ได้สังเกตเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น