เป็นที่ทราบกันดีว่าด้วยเทคโนโลยี Blockchain นั้นจะทำให้สิ่งของหรือข้อมูลที่อยู่บนนั้น ไม่สามารถหายไปได้หรือแม้แต่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ เพราะว่ามันเป็นระบบ Decentralized นั่นเอง
นอกเหนือไปกว่านั้นด้วยเทคโนโลยี Blockchain ก็ทำให้ใครหลาย ๆ คนหนมาใช้ประโยชน์กันอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำธุรกิจ หรือแม่แต่อุตสาหกรรมต่างๆ ก็สามารถนำ Blockchain มาประยุกต์ใช้ได้ทั้งนั้น
ดั่งเช่นธุรกิจด้านการขนส่งหรือ Logistic ที่ทางผู้ผลิตนั้นสามารถใส่ข้อมูลบนระบบ Blockchain และให้ลูกค้าสามารถเข้าไปตรวจสอบสถานะการนำส่งหรือแม้แต่ถ้าสินค้าที่กำลังส่งมานั้น ฐานการผลิตอยู่ที่ไหน รายละเอียดเป็นอย่างไร เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่า ปฏิญญาสันติภาพในประวัติศาสตร์ของเกาหลีถูกเก็บบันทึกไว้ใน Ethereum โดยคนที่อัปขึ้นไปนั้นก็เพื่อไม่อยากให้มันหายไปนั่นเอง
หรือแม้แต่ล่าสุดที่ทาง Siamblockchain ได้รายงานไปก็คือมีบุคคลนิรนามได้อัปเพลง “ประเทศกูมี” ไปอยู่บน Blockchain ของ Zcoin ซึ่งเป็น Blockchain ที่เน้นเรื่อง Privacy หรือความเป็นส่วนตัวสูง จึงทำให้ไม่สามารถหาตัวผู้อัปโหลดได้ และที่สำคัญก็ไม่สามารถเข้าไปลบหรือแก้ไขตัวไฟล์นี้ได้เช่นกัน
เมื่อทุกคนสามารถเข้าไปดูข้อมูลบน Blockchain ได้หมด มันก็เลยเกิดความโปร่งใสและความศรัทธาบนระบบ Blockchain นั่นเอง
Privacy
บนโลกแห่งคริปโต มีหลากหลายสกุลเงินให้จับต้องอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสกุลเงินที่เน้นเรื่องความเร็วในการทำธุรกรรมเช่น XRP หรือแม้แต่เหรียญที่เน้นเรื่อง Privacy หรือความเป็นส่วนตัวสูงนั่นเอง
หนึ่งในเหรียญที่มีความส่วนตัวสูงและคนไทยรู้จักกันดีก็คือ Zcoin โดยถ้าอ้างอิงจากข่าว “ประเทศกูมี” แล้วละก็ ทางผู้อัปไฟล์วีดีโอนี้ขึ้นไปบน Blockchain ของ Zcoin อาจเล็งเห็นถึงระดับ Privacy ในเหรียญนี้ และอาจเป็นเพราะเป็นเหรียญของคนไทยด้วยก็ได้ จึงได้เลือก Zcoin นั่นเอง
โดยการกระทำของเขานั้นเป็นการบ่งบอกถึงว่าเทคโนโลยีนี้ ได้มีประโยชน์ต่อพวกเขาแล้วในการรักษาข้อมูลโดยที่ไม่อยากให้ข้อมูลนี้หายไปหรือโดนบล็อกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ถ้าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ผิดต่อศีลธรรมหรือจรรยาบรรณก็ดีไป แต่ถ้ามีกลุ่มคนอีกฝ่ายหนึ่งหันมาใช้ประโยชน์ของ Blockchain ในทางที่ผิดมันจะเกิดอะไรขึ้นแล้วมันสามารถทำได้หรือไม่?
สิ่งผิดกฏหมาย
ถ้าเรามองว่า Blockchain สามารถเก็บทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกได้ และไม่มีวันสูญหายละก็ นอกจากสิ่งที่ดีแล้วนั้น สิ่งที่ไม่ดีก็สามารถนำมาเก็บบน Blockchain ได้เหมือนกัน
โดยอาจจะเป็นในรูปแบบของไฟล์เอกสารของทางราชการหรือสิ่งผิดกฏหมายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาเสพติด การพนัน สื่อหรือสิ่งลามกอนาจาร ก็อาจถูกนำไปอยู่บนระบบ Blockchain ก็เป็นได้
เลือกใช้งาน
สิ่งที่จะทำให้เกิดการใช้งาน Blockchain ให้ถูกวิธีก็คือทุก ๆ คนนั่นเอง เพราะไม่มีใครสามารถบังคับเราให้ทำสิ่งผิดได้นอกจากเรา ถ้าเรานำเรื่อง Blockchain ไปทำสิ่งที่มีประโยชน์เช่นไปพัฒนาเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือแม้แต่การเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่นสัญญาต่าง ๆ และนำ Smart Contract มาจับด้วยนั่น มันก็จะเป็นการพัฒนาธุรกิจในทุก ๆ อุตสาหกรรมนั่นเอง
สุดท้ายก็คือเทคโนโลยีตัวมันเองนั้นมีประโยชน์มหาศาล เพียงแค่ผู้คนนั้นจะสามารถจับมันไปทำสิ่งที่มีประโยชน์ได้หรือไม่ ไม่ใช่ว่านำมันไปใช้ในทางที่ไม่ดีแล้วไปกล่าวโทษมันว่ามันเอาไปใช้ในทางที่ไม่ดีนั่นเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น