อ้างอิงจากการวิจัยโดยกลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีของ Cisco ที่ตีพิมพ์ใน PCMag เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา รายงานว่ามหาวิทยาลัยเป็นสถานที่ขุดเหมืองใหญ่เป็นอันดับสอง
มหาวิทยาลัยเป็นอันดับสอง
นักวิจัยด้านความปลอดภัยของ Cisco รายงานว่าได้ทำการตรวจสอบการขุดคริปโตในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยได้ทำการวิจัยควบคู่ไปกับ Umbrella ผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยของ Cisco ซึ่งตรวจสอบการเชื่อมต่อเครือข่ายของลูกค้าเพื่อคัดกรองกิจกรรมที่เป็นอันตรายรวมถึงการขุดคริปโตที่น่าสงสัย
อ้างอิงจากรายงานมหาวิทยาลัยถูกจัดอันดับเป็นอันดับสองในการขุดเหรียญโดยมีเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 22 เปอร์เซ็นต์ รองจากอุตสาหกรรมภาคพลังงานและสาธารณูปโภคเพียง 34 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นาย Austin McBride นักวิจัยด้านการคุกคามของ Cisco ได้อธิบายถึงแนวโน้มโดยกล่าวว่า “คุณปล่อยให้ Rig ขุดเหมืองทำงานในห้องพักหอพักของคุณเป็นเวลาสี่ปี คุณเดินออกจากวิทยาลัยพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่”
การที่นักเรียนเลือกที่จะตั้ง Rig ในหอพักหรือห้องสมุดโรงเรียนก็เพราะว่าจะได้สามารถหลีกเลี่ยงค่าไฟฟ้าได้ และรับกำไรจากการขุด Cryptocurrency โดยเขากล่าวเสริมว่า:
“ค่า Diff ในการขุดเหรียญตอนนี้มันสูงมาก ซึ่งมันหมายความว่าค่าไฟฟ้าก็สูงมากกว่ากำไรเช่นกัน หากคุณไม่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในส่วนนี้ คุณก็สามารถทำกำไรจากการขุดเหมืองของคุณได้ผ่านหอพักนั่นเอง”
ในการจัดอันดับของ Cisco นอกจากมหาวิทยาลัยและสาธารณูปโภคแล้วนั้นถัดมาก็คืออุตสาหกรรมด้านสื่อและการดูแลสุขภาพโดยมี 6 และ 7 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ
แนวโน้มที่คล้ายคลึงกันถูกพบในเดือนเมษายนของปีที่แล้วเมื่อ Vectra บริษัทตรวจสอบการโจมตีทางไซเบอร์พบว่าทั้งการขุด Cryptocurrency และ Cryptojacking กลายเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในมหาวิทยาลัยมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ
ในเดือนมกราคมปี 2018 มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดโพสต์คำเตือนเรื่องการขุดเหมืองในมหาวิทยาลัย เนื่องจากทรัพยากรของโรงเรียน“ ต้องไม่ใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเงินส่วนตัว” คำเตือนดังกล่าวยังอ้างถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้อมูลระดับหัวหน้าของโรงเรียนด้วย
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น