Ripple กำลังสร้างความสัมพันธ์กับสถาบันทางการเงินทั่วโลกเนื่องจากพวกเขาใช้วิธีการชำระเงินข้ามพรมแดนเพื่อการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและถูกกว่า
ชำระเงินข้ามพรมแดน
Ripple ถูกกล่าวถึงโดย World Bank ว่าสามารถปรับปรุงการส่งเ้งินได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าจะกล่าวให้ถูกต้องก็คือการาส่งเงินแบบทั่วไปคือการส่งเงินที่มีราคาแพงที่สุด แต่ก็เป็นที่ต้องการมากสุดเช่นกัน วิธีนี้เป็นวิธีสำหรับชาวบ้านที่ทำงานนอกประเทศตัวเองและอยากส่งเงินกลับประเทศเพื่อนบ้าน
การส่งเงินที่มีราคาแพง ก็ยิ่งมีความแม่นยำ Sub-Saharan Africa ยังคงเป็นภูมิภาคที่แพงที่สุดในการส่งเงินไป โดยค่าใช้จ่ายโฌเดยเฉลี่ยอยู่ที่ 8.97 เปอร์เซ็นต์ นวัตกรรมการชำระเงินข้ามพรมแดนสามารถช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานสำหรับผู้ให้บริการโอนเงินได้
รายงานดังกล่าวให้ความสนใจกับเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภท DLT รวมไปถึงเทคโนโลยี xRapid ของ Ripple ซึ่งสถาบันหลายแห่งได้ดำเนินโครงการนำร่องใช้งานและบริการชำระเงินของ Circle
จากนั้นก็อ้างถึงโครงการนำร่องของ Ripple ระหว่างเม็กซิโกและ Rippleโดยมีการสรุปการการนำร่องทดลองใช้การส่งเงินผ่านแพลตฟอร์มของ Ripple นั้นสามารถประหยัดเงินได้มากกว่า 40 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ การทดลองนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเมื่อเทียบกับวิธีการดั้งเดิมที่ใช้เวลาสองสามวัน Mercury FX ซึ่งใช้ xRapid รายงานว่ามีการส่งเงินมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ผ่าน Ripple
การชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทหรือ DLT อาจเป็นตัวที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจดีขึ้นและช่วยชีวิตผู้คนนับล้านในประเทศเศรษฐกิจเกิดใม่ได้ เทคโนโลยี DLT สามารถปรับปรุงความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับของการส่งเงินและลดต้นทุนต่าง ๆ และยังกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในบางประเทศอีกด้วย
แน่นอนยังมีความท้าทายอื่น ๆ เช่นมีกฎข้อระเบียบในหลาย ๆ เขต และยังต้องแข่งขันกับเทคโนโลยี SWIFT ที่อาจมีการปรับปรุงที่ดีขึ้น โดยทั้งหมดนี้อาจเป็นอุปสรรคสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนของ DLT
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น