อัตราเงินเฟ้อในประเทศอาร์เจนตินานั้นพุ่งทะลุ 54% แล้ว
เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางประเทศอาร์เจนตินานั้นได้รัดเข็มขัดนโยบายด้านการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อในประเทศมาแล้วถึงสามครั้ง ทว่าก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด โดยอัตราเงินเฟ้อนั้นได้พุ่งขึ้นมาเกือบ 55% แล้ว อ้างอิงจากสำนักข่าว Bloomberg
“อัตราเงินเฟ้อนั้นเพิ่มขึ้นเกือบ 55% ในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งราคาสินค้าอุปโภคบริโภคนั้นพุ่งถึง 4.7% ภายในเดือนเดียว ซึ่งมากกว่าที่ทางนักวิเคราะห์ของ Bloomberg คาดการณ์ไว้เสียอีก”
สภาพเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงของอาร์เจนตินาส่งผลทำให้นักลงทุนและนักเทรดหลายคนต้องหันมาเอาตัวรอดด้วย Bitcoin ซึ่งส่งผลทำให้โวลลุ่มการซื้อขายเหรียญดังกล่าวในประเทศนั้นพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์มาแล้ว
นิตยสารด้านการเงิย Financial Times ได้ออกมาเผยว่าอาการเงินเฟ้อของประเทศอาร์เจนตินานั้นเลยจุดที่จะเยียวยาได้แล้ว พร้อมเสริมว่า
“อาร์เจนตินานั้นกำลังติดอยู่ในกับดักวังวนที่น่ากลัวมาก หากมีความต้องการเงินดอลลาร์ในตลาดเพียงไม่กี่ล้านดอลลาร์ ก็จะทำให้ค่าเงินเปโซนั้นอ่อนตัวลงได้ ตามที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อมูลค่าอัตราแลกเปลี่ยนที่ร่วงลงนั้นทำให้เกิดเงินเฟ้อ, การหันมาถือเงินดอลลาร์แทน, และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่ง ณ ขณะนี้สิ่งที่ธนาคารกลางทำได้นั้นก็แค่พยุงตัวเงินของพวกเขาไว้”
หันมาใช้ Bitcoin แทน
ด้วยความที่ Bitcoin นั้นมีความทนทานต่อสภาวะเงินเฟ้อ ทำให้มันอาจนำมาใช้แก้ไขสถานการณ์นี้ได้ นอกจากนี้หลาย ๆ คนก็มองว่าเหรียญ BTC นั้นอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าได้
ตามที่ทางสยามบล็อกเชนเคยรายงานไปแล้วก่อนหน้านี้ ว่าชาวอาร์เจนตินาสามารถจ่ายค่าโดยสารสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า และรถเมล์เป็น Bitcoin ได้แล้ว ผ่านระบบบัตรโดยสารสาธารณะ SUBE ที่พวกเขาสามารถโหลดเหรียญ Bitcoin เข้าไปในบัตร และนำไปแตะเพื่อใช้งานที่ระบบขนส่งมวลชนอย่างรถบัส และรถไฟฟ้าได้
นอกจากนี้ ประธานาธิบดี Mauricio Macri นั้นก็เคยออกมาแสดงความสนใจในตัว Bitcoin และเทคโนโลยี Blockchain ที่อยู่เบื้องหลังของมันมาแล้ว ซึ่งเมื่อเดือนมีนาคมปี 2019 ที่ผ่านมาทางรัฐบาลอาร์เจนตินาได้ออกมาประกาศร่วมมือกับ Binance Labs ซึ่งถือเป็นบริษัทบ่มเพาะสตาร์ทอัพจากเว็บเทรดคริปโตชื่อดัง Binance
นอกจากนี้ มหาเศรษฐีคริปโตอย่างนาย Tim Draper ยังเชื่อว่าประธานาธิบดี Macri กำลังพยายามดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศผ่านการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ และแทนที่เงินเปโซด้วย Bitcoin
ซึ่งในขณะนั้นเขาได้ออกมาทำนายว่า
“ถ้าหากว่าเงินเปโซนั้นมีค่ามากกว่า Bitcoin ผมจะเข้าไปเพิ่มเงินลงทุนในประเทศเลย แต่ถ้า Bitcoin นั้นมีมูลค่ามากกว่าเปโซ นั่นมันก็เพอเฟกต์เลย เพราะว่าไม่มีใครมีความมั่นใจในสกุลเงินนั้นแล้ว”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น