<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

4 สัญญาณที่สามารถบ่งบอกว่าคุณควรขาย Bitcoin ในช่วงขาขึ้นแล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การลงทุนใน Bitcoin นั้น หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงคือกลยุทธ์ในการวางแผนถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการขายเหรียญเพื่อทำกำไรให้ได้มากที่สุด ซึ่งเห็นได้จากสิ่งที่ผ่านมาในอดีตว่าการเปลี่ยนแปลงราคาของ Bitcoin นั้นมีรูปแบบวงจรที่ค่อนข้างคล้ายกับที่เกิดขึ้นในอดีตหลายๆครั้ง เช่นการที่ราคานั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างเฉียบพลันและกลับตัวลงหลังจากนั้นไม่นานนั่นเอง ดังนั้นแล้วสิ่งที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้จึงเป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจซึ่งอาจช่วยในการตัดสินใจขสย Bitcoin ของคุณได้

อย่างไรก็ตามบทความนี้ไม่ใช่บทความซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลด้านการลงทุนให้รอบคอบด้วยตนเองทุนครั้งก่อนการลงทุน

สัญญาณแรก : เมื่อนาย Tai Lopez ได้โพสวิดีโอเกี่ยวกับ Bitcoin ลงในช่องยูทูปของตัวเอง

นาย Tai Lopez ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านการเป็นนักพูดสร้างกำลังใจ นักการตลาด และในฐานะโค้ช โดยแม้ว่าสัญญาณแรกนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นการเล่นตลกแต่จริงๆแล้วนั้นกลับเป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากการที่สื่อหลักและเหล่าผู้มีอิทธิพลในวงการนั้นได้แสดงออกถึงความสนใจเป็นพิเศษในตัว Bitcoin นั่นเป็นสิ่งที่แสดงว่าช่วงตลาดขาขึ้นนั้นใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆแล้ว 

หลักฐานสำคัญซึ่งรองรับข้อสังเกตนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมและธันวาคมของช่วงปี 2017 ที่สกุลเงินคริปโตนั้นได้รับความสนใจจากสื่อมากที่สุดตลอดช่วงเวลาดังกล่าวที่ในแต่ละวันนั้นราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นนับพันดอลลาร์จนกระทั่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 20,000 ดอลลาร์นั่นเอง ซึ่งข้อมูลจาก Google ก็ได้แสดงให้เห็นชัดเจนถึงช่วงเวลาที่ผู้คนต่างพูดถึงสกุลเงินคริปโต

ด้วยเหตุนี้เองหลาสยคนจึงคิดมามันเป็นหนึ่งในสัญญาณที่ค่อนข้างแม่นยำได้การคาดเดาจังหวะของสำหรับการขายเหรียญคริปโต เนื่องจากเมื่อพ้นช่วงเวลาที่ผู้คนให้ความสนใจเหรียญดังกล่าวเพิ่มมากที่สุดในช่วงนั้นๆแล้ว ราคาของเหรียญมักจะร่วงลงหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั่นเอง

สัญญาณที่สอง : เมื่อมีคนเทขายเหรียญเพื่อไปซื้อรถหรูอย่างแลมโบกินี่

การพูดถึงรถหรูชื่อดังแบรนด์นี้น่าจะเป็นสิ่งที่สะกิดใจผู้คนในวงการคริปโตหลายคน เนื่องจากในช่วงปี 2017 นั้นปรากฏเหตุการณ์ที่เหล่าเศรษฐีรุ่นแรกๆของวงการ Bitcoin บางคนได้ทำการเทขายเหรียญเพื่อนำไปซื้อรถหรูดังกล่าว

สัญญาณนี้อาจดูเหมือนการล้อเล่นมากขึ้นไปกว่าสัญญาณแรกอีก แต่หากมองในอีกมุมหนึ่งนั้นจะพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเสมือนการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนโดยการสังเกตจากกรณีที่นักลงทุนซึ่งมีเหรียญในมือปริมาณมากได้ตัดสินใจเทขายเหรียญนั่นเอง

ทั้งนี้การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับการตัดสินใจเทขายนั้นอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมหลายอย่างขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคน ดังนั้นแล้วการตัดสินใจควรเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ลงทุนให้เวลาพอสมควรกับการลงทุนแล้วประกอบกับการมีข้อมูลที่ชัดเจนมากเพียงพอต่อการตัดสินใจอีกด้วย

สัญญาณที่สาม : เมื่อถึงจุดที่คุณสามารถขาย BTC ในกองที่แบ่งออกไว้ได้แล้ว

กลยุทธ์ในการแบ่งการลงทุนออกเป็นหลายกองนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ โดยการระบุให้เหรียญแต่ละกองนั้นมีจุดราคาขายที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเมื่อราคาเหรียญวิ่งขึ้นมาแตะจุดที่ตั้งไว้แล้ว ผู้ลงทุนจึงไม่จำเป็นต้องกังวลกับการคาดเดาจังหวะในการขายออกอีกต่อไป อีกทั้งยังมีเหรียญกองอื่นๆที่ผู้ลงทุนสามารถถือไว้ในระยะยาวได้อีกด้วย 

นอกจากนี้นักลงทุนรายอื่นๆที่มีความเชี่ยวชาญยังได้ใช้กลยุทธ์เดียวกันนี้ในการแบ่งการลงทุนของพวกเขาออก โดยส่วนหนึ่งที่ได้แบ่งไว้สำหรับการลงทุนระยะสั้นนั้น สามารถสร้างผลกำไรจากการเปลี่ยนแปลงที่ฉับพลันและผันผวนของ Bitcoin ได้ เช่นที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันก่อนที่เหรียญดังกล่าวได้มีราคาเพิ่มขึ้นกว่า 40%ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงและได้ร่วงลงมาในทันทีหลังจากแตะที่ราคาดังกล่าว ซึ่งส่วนที่ได้แบ่งไว้เพื่อถือเหรียญในระยะยาวนั้นอาจไม่ได้รับประโยชน์จากตรงนี้มากเท่าไหร่นัก แต่ผู้ที่ได้ตั้งจุดขายระยะสั้นๆไว้น่าจะสร้างผลกำไรได้พอสมควรเลยทีเดียว

สัญญาณสุดท้าย : ตัดสินใจไม่ขายซะ ถือเหรียญไว้กำไรงามกว่าในระยะยาว

แนวคิดนี้น่าจะเข้าใจได้สำหรับเหล่านักลงทุนซึ่งต้องการตั้งเป้าการลงทุนให้ได้กำไรสูงสุดรวมทั้งผู้ที่เข้าใจแนวคิดตั้งต้นของ Bitcoin เป็นอย่างดี เนื่องจากในช่วงนี้ผู้คนต่างมองเหรียญดังกล่าวในฐานะที่เป็นตัวเลือกการลงทุนที่สร้างผลกำไรจากการคาดการณ์และการเก็งกำไร แต่ที่จริงแล้วนั้นตามที่ผู้สร้างเหรียญอย่าง Satoshi Nakamoto ได้ตั้งใจไว้นั้น เหรียญดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการเป็นเงินดิจิทัลสำหรับการสร้างระบบการทำธุรกรรมระหว่างบุคคลโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยตัวกลางทางการเงิน

หากแนวคิดตั้งต้นของ Bitcoin นั้นเป็นจริง ผู้คนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ใจกับมูลค่าของเหรียญเมื่อเทียบกับเงินจริงอย่างสกุลดอลลาร์มากนักเนื่องจากคุณสมบัติในการเป็นสื่อกลางสำหรับการแลกเปลี่ยนของมัน แต่ทั้งนี้มันก็ไม่เสียหายที่เราจะตั้งเป้าไว้ว่าราคาของเหรียญนั้นจะพุ่งทะลุเพดาน ซึ่งสิ่งที่น่าสังเกตคือ Bitcoin นั้นได้เคยพิสูจน์ตัวเองมาก่อนแล้วว่าการถือเหรียญดังกล่าวไว้นั้นมีประโยชน์มากกว่าการการจายการลงทุนในเหรียญคริปโตอื่นๆในตลาด 

ท้ายที่สุดนี้เหล่าสัญญาณที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งในหลายๆสัญญาณซึ่งผู้คนในโลกออนไลน์ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยหากมองข้ามความตลกขบขันที่เกิดขึ้นดังกล่าวแล้วจะพบว่าสิ่งเหล่านี้มีประโยชน์เหมาะแก่การสังเกตมากกว่าที่คิด 

ที่มา : Cryptopotato

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น