ดูเหมือนว่าตลาด Bitcoin และคริปโตอื่น ๆ นั้นจะคึกคักอย่างมาก และเป็นไปในด้านบวกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยราคานั้นได้เพิ่มขึ้น 10% จากการย่อตัวลง 10% ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
กระนั้น เราก็ได้เหรียญผู้ชนะที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาที่สูงที่สุดในตลาด ซึ่งนั่นก็คือ Ethereum
เจ้าเหรียญอันดับสองของโลกดังกล่าวนี้ได้มีราคาที่เพิ่มขึ้น 10% ในช่วงเมื่อวานนี้ โดยเพิ่มขึ้นท่ามกลางแรงซื้อที่ไหลเข้ามาในตลาดอย่างรุนแรง และทำให้ราคาของ ETH นั้นสามารถวิ่งผ่านแนวต้านสำคัญไปได้
แม้ว่าราคาของ Bitcoin นั้นจะไม่สามารถวิ่งตาม Ethereum ไปในอัตราที่เท่ากัน แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของราคาเหรียญ ETH ล่าสุดนั้นอาจดึงให้ราคาเหรียญอื่น ๆ ในตลาดนั้นพุ่งสูงขึ้นตามมันมาได้ในท้ายสุด
ตลาด Ethereum จะช่วยเพิ่มราคา Bitcoin
นาย Mohit Sorout นักวิเคราะห์จาก Bitazu Capital ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าการที่ราคาของ Ethereum สามารถที่จะวิ่งผ่านแนวต้านใหม่ ๆ ได้กำลังถือเป็นการ “สุมไฟ” ให้ตลาด Bitcoin มีโอกาสที่จะมีราคาที่เพิ่มขึ้นมากกว่านี้
“ราคาของ ETH ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดึงเอา BTC ให้วิ่งผ่านระดับราคาที่ 10,000 ดอลลาร์ ซึ่งมันจะเป็นการสุมไฟให้กับ BTC จนกระทั่ง ETH นั้นบ้าคลั่งไปเลย นั่นถือเป็นรูปแบบเหตุการณ์ที่ผมชอบ”
โดยกราฟด้านล่างที่นาย Sorout โพสต์บนทวิตเตอร์ของเขานี้กำลังอธิบายว่าตลาด Bitcoin นั้นมีโอกาสที่จะวิ่งตาม Ethereum ไปได้ในท้ายสุด
ซึ่งกราฟด้านบนนั้นเป็นกราฟของ Bitcoin ส่วนกราฟด้านล่างเป็นกราฟของ Ethereum ที่ถูกนำมาวางเทียบกันเพื่อแสดงให้เห็นว่าราคาของ Bitcoin นั้นยังไม่สามารถวิ่งผ่านเส้นแนวต้านเทรนด์หลักไปได้ แต่ในขณะเดียวกันของ Ethereum นั้นสามารถวิ่งผ่านไปได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ตลาด Ethereum ก็เคยวิ่งนำตลาด Bitcoin ไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนส่งผลทำให้ภายหลังราคาของ BTC วิ่งทะลุผ่าน 10,000 ดอลลาร์ไปได้ และนาย Sorout ก็เชื่อว่าในครั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นอาจจะกลับมาอีกครั้งภายในไม่กี่วันที่จะถึงนี้
ตลาด Bitcoin ดูมีแนวโน้มวิ่งขึ้นต่อ
ไม่ใช่แค่ Ethereum เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าราคาของ Bitcoin มีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย
ก่อนหน้านี้มีรายงานจากเว็บไซต์ Bitcoinist ที่ออกมาเผยว่าราคาของ Bitcoin นั้นกำลังอยู่ในจุดที่เตรียมจะ breakout ออกมาจากแนวต้านของเส้น downtrend ในกราฟรายเดือน
นาย Eric “Parabolic” Thies ได้ออกมาชี้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในกราฟข้างล่างนี้เผยว่าราคา Bitcoin นั้นได้วิ่งขึ้นมาอยู่ที่จุดสูงสุดของแนวต้านของเส้นเทรนด์ขาลงที่ถูกลากมาตั้งแต่ราคา 20,000 ดอลลาร์ของเมื่อปี 2017 โดยนั่นหมายความว่ามันพร้อมที่จะปะทุออกมาเมื่อไรก็ได้ทุกเมื่อ
นาย Thies เชื่อว่าหากกราฟราคาแท่งเทียนเดือนพฤษภาคมของ Bitcoin สามารถปิดเหนือเส้นดังกล่าวได้นั้น มันจะทำให้ราคามีแนวโน้มกลายเป็นขาขึ้นได้อย่างมาก
นอกเหนือปัจจัยทางด้านเทคนิคแล้ว เรายังมีปัจจัยด้านมาโครที่น่าจับตามองอีกด้วย
นาย Matt D’Souza หรือ CEO ของบริษัท Blockware Mining ได้ออกมากล่าวถึงเทรนด์ที่น่าสนใจดังกล่าวว่า
- ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน: ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศนี้ดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางปัญหาเรื่องความเป็นประชาธิปไตยของฮ่องกง เมื่อก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนได้ออกมาเผยร่างกฎหมายที่คนอเมริกันบางคนกล่าวว่าเป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพต่อคนฮ่องกง โดยหลังจากนั้นค่าเงินหยวนก็ร่วงลงอย่างรุนแรง ทำให้ Bitcoin นั้นอาจกลายมาเป็นตัวเลือกในการถูกใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedge) ได้
- ธนาคารกลางยังคงพิมพ์เงินสดออกมาเรื่อย ๆ:แม้ว่าจะมีความพยายามที่ดี แต่ในระยะยาวนั้นดูเหมือนว่ามันจะเป็นการสร้างมะเร็งเสียมากกว่า เมื่อธนาคารกลางทั่วโลกนั้นต่างก็พิมพ์เงินกันออกมานับล้านล้านดอลลาร์เพื่อที่จะนำมาใช้พยุงเศรษฐกิจที่กำลังเสียหายด้วยวิกฤตไวรัสโคโรน่าในขณะนี้ ซึ่งนั่นอาจส่งผลทำให้ค่าเงินดอลลาร์ตกอยู่ในความเสี่ยงเงินเฟ้อ แต่ก็จะเป็นผลดีต่อ Bitcoin เนื่องจากว่าจำนวนของมันนั้นไม่สามารถเพิ่มไปได้มากกว่า 21 ล้านดอลลาร์