อ้างอิงข้อมูลจาก Bloomberg ที่ได้เผยถึงความทะเยอทะยานของจีนที่กำลังเตรียมนำ ‘China Coin’ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมาประยุกต์ใช้กับประชาชนของพวกเขาและทำให้การควบคุมทางการเงินของพวกเขายิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนกลัวว่าการมาของ DCEP (การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์และสกุลเงินดิจิทัล) อาจเป็นการท้าทายอำนาจสกุลเงินเบอร์หนึ่งของโลกอย่าง ‘ดอลลาร์’ โดยผู้ก่อตั้ง NEO กล่าวว่าธนาคารกลางของจีน PBOC กำลังตั้งใจที่จะจัดสรรส่วนหนึ่งของโปรเจค DCEP เพื่อไปใช้ภายนอกประเทศจีน
DCEP เตรียมที่จะมีทดสอบครั้งใหญ่ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว
จีนยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างสกุลเงินดิจิทัลแบบ centralized ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ จนถึงตอนนี้เซินเจิ้น , ซูโจว , เฉิงตู ก็ยังคงเป็นสถานที่สำหรับการทดสอบ DCEP นับตั้งแต่เดือนเมษายน อ้างอิงจากรายงานของ Bloomberg
นอกจากนี้แล้วเจ้าหน้าที่ยังเตรียมทดสอบ DCEP ในเมืองอื่น ๆ เช่น ‘สงอัน’ smart city ที่กำลังก่อสร้างอยู่นอกกรุงปักกิ่งอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Bloomberg กล่าวว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนระยะเวลาในการทดสอบ DCEP ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นเวลาอีกสองปีนับจากนี้ ในช่วงระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเมืองหลวงของจีน
การควบคุมทางการเงินที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ความตั้งใจของจีนในการสร้างและใช้สกุลเงินดิจิทัลของตัวเองนั่นดูจริงจังอย่างมาก พวกเขายังคงสั่งห้ามไม่ให้มีการใช้ Bitcoin และการซื้อขาย Bitcoin ภายในประเทศ
นักวิเคราะห์เชื่อว่า DCEP จะช่วยให้จีนสามารถควบคุมธุรกรรมทางการเงินของประชากรได้อย่างมหาศาลในแบบที่รัฐไม่เคยทำได้กับธนบัตร
ในขณะนี้ธนาคารกลางจีนกำลังแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เช่น WeChat, Alipay โดยได้รับการสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่ Tencent และ Alibaba อย่างไรก็ตามหากโปรเจค DCEP ประสบความสำเร็จ PBOC คาดว่าจะค่อย ๆ กดดันให้คู่แข่งออกจากตลาดไป
ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่ายังมีแรงจูงใจทางการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง DCEP เนื่องจากในอนาคตอาจสกุลเงินดิจิทัลของจีนอาจถูกนำไปใช้ประเทศต่าง ๆ เช่นอิหร่านเวเนซุเอลาและประเทศอื่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
ที่มา : u.today