ธนาคารกลางแห่งประเทศกัมพูชาได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการเหรียญคริปโตและระบบการจ่ายเงินผ่านบล็อกเชนที่ใช้ชื่อว่าโครงการบากองในสัปดาห์นี้
โครงการดังกล่าวนั้นถูกริเริ่มขึ้นมาแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงประมาณปี 2017 โดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะยกระดับการชำระเงินให้มีความเป็น Digital และทันสมัยมากขึ้น เนื่องจากว่าผู้คนในประเทศนั้นมักจะนิยมใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐมาเป็นเวลานานแล้ว อ้างอิงจาก White Paper ที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ทางธนาคารกลางกล่าวว่าโครงการบากองจะถูกพัฒนาขึ้นมาสู้กับเงินดอลลาร์ด้วยการรองรับการจ่ายเงินผ่านระบบ QR และบนโทรศัพท์มือถือ โดยการทำธุรกรรมนั้นจะเป็นการทำผ่านบล็อกเชนของ Hyperledger Iroha ที่จะสามารถประมวลผลธุรกรรมได้แบบ Real Time โดยจะสามารถทำงานร่วมกับระบบ E wallet ที่ถูกนำไปเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารของผู้ใช้งานอีกด้วย
ระบบบล็อกเชนดังกล่าวนั้นจะเป็นแบบ centralized และจะทำงานขนานกันระหว่างบัญชีของบากองและบัญชีของธนาคารตั้งเดิม, ทำการบันทึกข้อมูลธุรกรรมบน distributed ledger, ผ่านระบบ consensus ด้วยการโหวตของ algorithm ที่ชื่อว่า “Yet Another Consensus”, และก็จะทำการประมวลผลธุรกรรมโดยใช้เวลาเพียง 5 วินาทีหรือน้อยกว่านั้น อ้างอิงจาก White Paper ของพวกเขา
“ค่า throughput ในการทำธุรกรรมนั้นจะอยู่ที่ราวๆ 1,000 และ 2,000 ธุรกรรมต่อวินาที” ขึ้นอยู่กับสเปคทางเทคนิค กล่าวโดยทางธนาคารกลางพร้อมเสริมว่า “สิ่งนี้บ่งบอกว่าโครงการดังกล่าวมีศักยภาพในการสเกลได้มากขึ้น”
การธนาคารกล่าวว่าระบบ peer-to-peer ของพวกเขาจะสามารถกำจัดระบบ Clearing แบบดั้งเดิมที่มีความล่าช้าและมีต้นทุนที่สูงกว่า โดยผู้ใช้งานที่ทำธุรกรรมนั้นจะไม่ต้องมาแบกรับค่าธรรมเนียมตรงจุดนี้
“ด้วยการที่ธนาคารและผู้ใช้งานนั้นถูกจับมารวมกันให้อยู่บนแพลตฟอร์ม DLT เดียวกัน ทำให้ทั้งสองฝ่ายนี้ไม่ต้องประสบปัญหาด้านการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกันได้อีกต่อไป” กล่าวโดยธนาคารกลางกัมพูชา
ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้ออกมารายงานไปแล้วเมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่าทางธนาคารกลางกัมพูชานั้นมีแผนการที่จะเปิดตัวโครงการดังกล่าวของพวกเขา แต่ว่าในตอนนั้นไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญดังกล่าวแต่อย่างใด