<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

มูลค่าตลาดโดยรวมของ Tether พุ่งแตะระดับ 11,000 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดคริปโต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปัจจุบันความต้องการเหรียญ Stablecoin ยังคงสูงเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ด้วยมูลค่าตลาดของ Tether (USDT) ที่พุ่งสูงถึงระดับ 11,000 ล้านดอลลาร์หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 136% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 

เนื่องด้วย USDT-BTC เป็นหนึ่งในคู่เงินคริปโตที่มีสภาพคล่องมากที่สุดและเป็นตัวเลือกที่ถูกที่สุดในแง่การซื้อเหรียญ BTC ดังนั้นกระแสเงินไหลเข้าของ Bitcoin จึงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในทุก ๆ เว็ปเทรดคริปโตสำหรับเดือนนี้ อ้างอิงข้อมูลจาก Chainalysis 

อะไรคือ stablecoin ?

สเตเบิ้ลคอยน์ (Stablecoin) เป็นคริปโตเคอเรนซี่ประเภทหนึ่ง ที่สามารถคงมูลค่าไว้คงที่ได้ตลอดเวลา เป็นคริปโตที่ผูกกับสินทรัพย์ที่มีความคงที่ เช่น ทอง, น้ำมัน หรือ สกุลเงินตราปกติ ตรงข้ามกับคริปโตเคอเรนซี่ประเภทอื่นที่มีความผันผวนสูง ซึ่งปัจจัยในความผันผวนของเหรียญต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย เช่นระยะเวลาการทำธุรกรรม จำนวนอุปสงค์อุปทาน แต่สเตเบิ้ลคอยน์นั้นไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยนั้น หรือได้รับผลกระทบน้อย

หน้าที่หลักของสเตเบิ้ลคอยน์ที่ทำให้ผู้ใช้หันมาใช้งาน คือการเก็บรักษามูลค่าเหรียญของตนไว้ เป็นการเลี่ยงความเสี่ยง จากการผันผวนของราคาในสกุลเงินคริปโต เพราะเมื่อก่อนหากนักลงทุนต้องการคงมูลค่าของเหรียญไว้ ก็จำเป็นต้องแลกเหรียญของตนไปยังเหรียญที่มีความผันผวนน้อยที่สุด ซึ่งสเตเบิ้ลคอยน์จึงได้เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ของนักลงทุน

ความผันผวนของตลาดผลักดันให้เกิดความต้องการในเหรียญ stablecoin เพิ่มสูงขึ้น

ในช่วงปีที่ผ่านมา อุปทานหมุนเวียนของเหรียญ stablecoins ได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าอยู่ที่ประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนที่กำลังมองหาสินทรัพย์เก็บรักษามูลค่าได้ ท่ามกลางตลาดที่ผันผวน อ้างอิงจากการวิจัยของ Coin Metrics มันต้องใช้เวลาเกือบ 5 ปีกว่าที่อุปทานหมุนเวียนของเหรียญจะพุ่งแตะระดับ 6,000 ล้านดอลลาร์

จากรายงานระบุว่า “มีการออกเหรียญ USDT_ETH ใหม่เป็นจำนวนกว่า 800 ล้านเหรียญ” ภายในช่วงสองสัปดาห์ก่อนถึงวันที่ 12 มีนาคม เพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นได้ภาพชัด ๆ  “740 ล้านเหรียญ USDT_ETH ได้ถูกสร้างขึ้น นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 11 มีนาคม”

อ้างอิงข้อมูลจาก CryptoCompare ในเดือนมีนาคมเผยว่า นักเทรดส่วนใหญ่ได้ซื้อ BTC ด้วยเหรียญ USDT คิดเป็นเท่ากับจำนวน 73% ของทั้งหมด

นักลงทุนระดับสถาบันกำลังซื้อเหรียญ Stablecoin

หนึ่งในเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปีนี้ก็คือการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่สำคัญสำหรับนักลงทุนระดับสถาบัน  แม้ว่าฮ่องกงจะเป็นตลาดแรกที่มีกรอบการกำกับดูแล แต่ถึงอย่างนั้นหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐก็เพิ่งประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า ธนาคารในสหรัฐฯ สามารถเปิดให้รับฝาก Bitcoin ได้แล้ว หลังได้รับอนุญาตจากรัฐบาล

แล้วสิ่งแรกที่พวกเขาจะซื้อคืออะไร ? แน่นอนว่าต้องเป็นเหรียญ Stablecoin อ้างอิงจากรายงานข้อมูลเชิงลึกที่ตีพิมพ์โดย Binance เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 พบว่า 96% ของลูกค้าระดับสถาบันได้เข้าซื้อเหรียญ Stablecoin USDT กันมากที่สุด

ที่มา : decrypt