<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สาเหตุที่วอลุ่มการซื้อขายที่ลดลงบนตลาด Bitcoin Future จะทำให้ตลาดกลายเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วอลุ่มซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สของ Bitcoin ( BTC ) นั้นกำลังร่วงลงอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่านับตั้งแต่แตะจุดสูงสุดในเดือนกันยายนวอลุ่มซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สของ BTC ก็ได้ปรับลดลงกว่า 60% จากระดับ 25,000 ล้านดอลลาร์เหลือประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์

แม้ว่ากิจกรรมการซื้อขายดังกล่าวจะแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน แต่สิ่งนี้ก็บ่งบอกได้ว่าช่วงขาขึ้นรอบใหม่อาจกำลังจะมาถึงแล้ว

สาเหตุที่การลดลงของกิจกรรมในตลาดจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ Bitcoin 

โดยปกติแล้วนักเทรดส่วนใหญ่มักจะมีการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อยู่ในแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่างเช่น Binance, BitMEX และ ByBit ที่สามารถใช้อัตราเลเวอเรจได้สูงถึง 125x

เมื่อนักเทรดใช้อัตราเลเวอเรจที่เพิ่มขึ้น พวกเขาก็จะต้องแบกรับความเสี่ยงในการถูก liquidate บัญชีที่เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นหากสัญญา Long 10x ถูกวางไว้ที่ราคา 10,000 ดอลลาร์ ผู้ใช้มีความเสี่ยงที่จะถูก liquidate บัญชีที่ 9,000 ดอลลาร์ หากราคาร่วงลดลง

ดังนั้นหากมีนักเทรดจำนวนมากเปิด Position ในฝั่งเดียวกัน สิ่งนี้จะเพิ่มแรงกดดันให้เกิดการเทขายครั้งใหญ่กับราคา Bitcoin ได้

การเพิ่มขึ้นของวอลุ่มซื้อขาย Bitcoin Future นั้นอาจทำให้ Bitcoin ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูก liquidate บัญชีได้เหมือนกับที่เราเห็นในช่วง Black Thursday เมื่อสัญญาฟิวเจอร์มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ถูก liquidate หายวับไปกับตา หลังราคา Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 3,600 ดอลลาร์

โดยปกติแล้วการร่วงลดลงของวอลุ่มสัญญาฟิวเจอรส์ มักนำไปสู่กรณีของช่วงขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยอาจทำให้ราคาผันผวนอย่างรุนแรงเกิดขึ้นได้ หากมีการ liquidate บัญชีเป็นจำนวนมากที่ระดับราคา ณ จุดใดจุดหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้วอลุ่มซื้อขาย Bitcoin Future ที่ร่วงลดลง จึงอาจเป็นตัวจุดฉนวนที่สำคัญที่จะนำไปสู่ช่วงขาขึ้นครั้งใหญ่ในอนาคต 

สิ่งที่นักเทรดคาดหวังในระยะสั้น

ในระยะเวลาอันใกล้นี้ นักเทรดคาดว่าจะได้เห็นช่วงการเก็บสะสมราคา (sideway) เกิดขึ้นภายใต้แนวต้านระดับ 11,000 ดอลลาร์และสิ่งนี้สามารถขยายแนวโน้มการร่วงลดลงของวอลุ่มสัญญาฟิวเจอร์สให้ดำเนินต่อไป

นักเทรดคริปโต Edward Morra กล่าวว่า สภาพคล่องที่ลดต่ำลงจะส่งผลทำให้ Bitcoin มีการซื้อขายในช่วง Sideway โดยเขาได้ตั้งข้อสังเกตว่า  :

“ในมุมมองปัจจุบันของผม ไม่ว่าจะเป็นจุดสูงสุดของราคาหรือจุดที่ราคาจะหยุดตัวลง ล้วนแต่มีสภาพคล่องที่อยู่ต่ำกว่าทั้งสิ้น”

ที่มา : cointelegraph