การมีส่วนร่วมในตลาดการเงินแบบดั้งเดิมกำลังเริ่มเป็นที่สนใจของผู้บริโภคและนักลงทุนสถาบันน้อยลงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และโอกาสใหม่ ๆ มากมายได้ถูกส่งต่อมายังภาคการเงินแบบกระจายอำนาจมากขึ้น อย่างไรก็ตามโอกาสใหม่นี้ไม่ได้ปราศจากความเสี่ยงไปซะทีทั้งหมดและยังคงมีข้อบกพร่องหลายประการ ดังนั้นการศึกษาและการเข้าถึงจึงเป็นเรื่องสิ่งสำคัญที่จะทำให้ DeFi สามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนรายย่อยให้หลั่งไหลเข้ามาในอุตสาหกรรมแห่งนี้ได้มากขึ้น
การแสวงหาผลประโยชน์ในการเงินจากส่วนกลาง
เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่ผู้บริโภคและนักลงทุนสถาบันได้สำรวจตัวเลือกต่าง ๆมากมายและได้นำเสนอตัวเลือกใหม่ ๆ ในโลกการเงิน วิธีนี้ได้ผลค่อนข้างดี เนื่องจากมันสามารถช่วยเพิ่มรายได้ในบัญชีออมทรัพย์ของนักลงทุนได้ ซึ่งต่างจากวิธีที่ธนาคารเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเชิงลบและยังคงใช้ประโยชน์จากลูกค้าของพวกเขา
ปัญหาอีกประการหนึ่งที่ทำให้การมีส่วนร่วมในภาคการเงินส่วนกลางลดน้อยลงก็คือ อุปสรรคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภาคอุตสาหกรรมการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อธนาคารถูกบังคับให้ชำระค่าการดำเนินคดีทางด้านกฎหมาย เนื่องจากการพวกเขาได้มีการกระทำผิดกฎหมาย ในข้อหาเปิดบัญชีให้กับลูกค้าของพวกเขาภายใต้ชื่อที่แตกต่างกัน และได้มีส่วนช่วยเกี่ยวกับการฟอกเงินให้กับลูกค้าของพวกเขาในทางอ้อม
การทำให้ DeFi สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
แม้ว่าการเงินแบบกระจายอำนาจอาจถูกกำหนดมาให้ขัดขวางการเงินแบบเดิม ๆ แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ ในปัจจุบัน DeFi จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้ที่มีความรู้เพียงพอเกี่ยวกับตลาดคริปโต แต่น่าเสียดายที่อุตสาหกรรม Defi ยังคงเป็นตลาดเฉพาะ แม้ในปัจจุบันแม้ว่าราคาของ Bitcoin และ Ethereum จะขยับขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ตาม
การเปลี่ยนจาก “การเป็นเจ้าของ Bitcoin” ไปสู่“ การเงินแบบกระจายอำนาจ” ยังคงมีเรื่องที่นักลงทุนจะต้องเรียนรู้อีกมาก DeFi นั้นยังคงเรื่องที่ซับซ้อน และยังไม่มี “คำแนะนำ” ใดที่เหมาะสมในการเตรียมตัวสำหรับโอกาสทางการเงินใหม่ ๆ เหล่านี้
การศึกษาเป็นก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่
การเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติที่ซับซ้อนของการเงินแบบกระจายอำนาจนั้นจะต้องมีการศึกษาที่ชัดเจนและรัดกุม เราจะต้องมีแพลตฟอร์มการศึกษาที่เพิ่มมากขึ้นเช่น ความคิดริเริ่มในด้านการศึกษาอย่าง GoodFi ที่ถูกสร้างขึ้นร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม Defi ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Chainlink, Aave, Radix mStable และอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอุปสรรคในการเข้าสู่ระบบการเงินแบบกระจายอำนาจและให้ความรู้แก่ผู้คนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลและโอกาสต่างๆ ในอุตสาหกรรมที่กว้างขึ้น
ดูเหมือนเป้าหมายที่ดีสำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับ DeFi ก็คือ การแนะนำให้ผู้คนมากกว่า 100 ล้านคน ฝากเงินอย่างน้อยคนละ 1 ดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินแบบกระจายอำนาจภายในปี 2025 เป้าหมายนี้อาจดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ง่าย แต่การโน้มน้าวให้ผู้คนนับล้านเข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เพราะหลายคนยังคงไม่มั่นใจกับสกุลเงินดิจิทัลโดยทั่วไปและพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะรู้สึกเช่นเดียวกันกับ DeFi
เราในฐานะผู้สนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เราควรต้องปรับปรุงเป็นอันดับแรกเลยก็คือ เรื่องที่มวลชนควรได้รับการเอาใจใส่อย่างจริงจังมากขึ้น ด้วยการศึกษาที่ชัดเจนและรัดกุม ซึ่งตัวเร่งสำคัญในการเปิดตัวโครงการด้านการศึกษาเพิ่มเติมในตอนนี้คือ เรื่องราวของ WallStreetBets / GameStop ที่อาจทำให้ผู้คนทั่วโลกพบว่าพวกเขาเองก็อยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจที่จะทำให้ตลาดการเงินเป็นไปอย่างที่พวกเขาต้องการได้ และแสดงให้เห็นว่าทุกคนก็สามารถเข้าถึงตลาดการเงินแบบรูปแบบใหม่นี้ได้