กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin หรือ Bitcoin ETF แห่งแรกของสหรัฐอเมริกาพร้อมที่จะเริ่มซื้อขายแล้วในสัปดาห์นี้ แม้ว่าประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นจะตามมาด้วยการสูญเสีย แต่คำพูดนี้ได้ถูกโยนทิ้งไปแล้วเมื่อกระดานเทรดคริปโตอย่าง Coinbase ได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในเดือนเมษายน
จากเหตุการณ์การเปิดตัว Bitcoin Futures ในกระดานเทรด Cboe Global Markets และของ CME Group (ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนอนุพันธ์ทางการเงินที่ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลังจาก Cboe Global Market) ในเดือนธันวาคมปี 2017 ทำให้ Bitcoin ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ถูกกฏหมายในหมู่นักลงทุนและคนทั่วไปและกลายมาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในปัจจุบัน
ราคา Bitcoin กำลังไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องหลักจากที่ Bitcoin ETF ที่ดำเนินการโดย ProShares ภายใต้สัญลักษณ์ “BITO” ถูกตั้งให้เริ่มซื้อขายในวันอังคารที่ 19 ตุลาคมนี้ ซึ่งทำให้ราคาเหรียญดิจิทัลอันดับ 1 ของโลกเพิ่มขึ้นเป็น 61,829 ดอลลาร์ซึ่งนับเป็นราคาที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ตลาดล่มในเดือนเมษายน ตามข้อมูลของ Coinbase และ St. Louis Federal Reserve bitcoin ETF อื่น ๆ อีกหลายแห่งเตรียมเข้าสู่ตลาดสหรัฐในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
หลังจากหันหลังให้ Bitcoin ETF มาหลายปี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อนุญาตให้อนุมัติกองทุนดังกล่าวเพื่อเป็นการไล่ตามยุโรปและแคนาดา ซึ่งการเปิดตัวเกิดขึ้นหลังจาก Gary Gensler ประธาน SEC ส่งสัญญาณในช่วงฤดูร้อนว่าหน่วยงานเปิดให้ ETF เชื่อมโยงกับ Bitcoin Futures ของ CME Group ซึ่งช่วยให้ผู้ค้าสามารถป้องกันความเสี่ยงจากราคาบิตคอยน์ได้
เหตุใดสำนักงาน ก.ล.ต. จึงระมัดระวัง Bitcoin ETF
Gensler อาจเปิดรับ ETF ที่ซื้อ crypto futures มากกว่า bitcoin เนื่องจากถูกควบคุมโดย Commodity Futures Trading Commission นอกจากนี้ยังหลีกเลี่ยงความกังวลที่หน่วยงานอาจมีเกี่ยวกับกองทุนที่ต้องถือ Bitcoin จริง ในขณะที่การป้องกันสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลมีมาไกลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ากระดานเทรดคริปโตจะถูกแฮก
อุตสาหกรรม ETF มูลค่า 7 ล้านล้านดอลลาร์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้รับความนิยมอย่างมหาศาลจากนักลงทุน โดยเสนอวิธีการซื้อและขายสินทรัพย์ที่ราคาถูกและยืดหยุ่น แต่ตอนนี้ก็ไม่ชัดเจนว่า ETF ของสหรัฐที่หลาย ๆ รอคอยมานานจะได้รับความนิยมเพียงใด
แม้ว่าชาวอเมริกันจะสามารถเข้าถึง Bitcoin ได้อย่างรวดเร็วจากแอป Coinbase, Square และ Robinhood แต่ Futures ETF จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเนื่องจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีวันหมดอายุ ทำให้กองทุนต้องซื้อสัญญาใหม่เพื่อรักษาระดับความเสี่ยงไว้
ทั้งนี้การที่สำนักงาน ก.ล.ต. จะอนุญาตให้ Bitcoin ETF เริ่มซื้อขายในเดือนนี้อาจทำให้กองทุนนี้อาจเป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ประเภทระยะสั้นเพื่อที่สามารถใช้ ETF เพื่อเข้าและออกจากอย่างรวดเร็วและราคาถูก แต่นักลงทุนระยะยาวอาจไม่กระตือรือร้นเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ ETF มีชื่อเสียงคือการลดต้นทุนส่งผลให้ทำให้การค้าและการลงทุนถูกลงตามที่ Grayscale Bitcoin Trust กองทุน crypto เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 2% ในขณะที่ Bitcoin ETF ของ ProShares คาดว่าจะเริ่มซื้อขายในสัปดาห์นี้คิดค่าธรรมเนียมเพียง 0.95% เนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. อนุญาตเงินทุนเหล่านี้เพิ่มขึ้นและเมื่อการแข่งขันเพิ่มขึ้น ด้วยสถาการณ์นี้นั่นเองทำให้สถาบันการเงินที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจำนวนมากสำหรับผลิตภัณฑ์ crypto อาจอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างสูงจากนักลงทุน