<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Bitcoin ในปี 2017 มีโอกาสเกิดฟองสบู่มากที่สุด กล่าวโดย Forbes

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นิตยสารเกี่ยวกับการลงทุนนาม Forbes ได้ออกมาฟันธงว่าการเติบโตของ Bitcoin ในปีนี้จะมีโอกาสเกิดประกฏการณ์ฟองสบู่สูงที่สุด และท้ายสุดฟองสบู่มันก็จะแตก นักลงทุนจะหนีตายกันจ้าละหวั่น

โดยบทความดังกล่าวนั้นมาจากนักเขียนของ Forbes นามว่า Panos Mourdoukoutas ที่ดูเหมือนจะหยิบยกตัวอย่างสินทรัพย์แบบทั่วๆไปที่ไม่ใช่เหรียญคริปโตมาอ้างอิง โดยใจความหลักๆว่าความนิยมอันล้มหลามของมันจะส่งผลให้ผู้คนเบื่อมันจนเลิกใช้ในท้ายสุด จน Bitcoin จะไม่เหลือค่าอะไรอีกต่อไป

“นักลงทุนส่วนใหญ่ที่ขลุกตัวอยู่ใน Wall Street มานานพอสมควรจะรู้ว่าเมื่อค่าเงินนั้นสูงเกินไป และมูลค่าการตอบแทนนั้นไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ ก็จะเกิดเหตุการณ์ฟองสบู่แตกในตอนท้าย และผู้คนก็จะสูญเสียเงินนับล้าน จะเสียมันมากกว่าตอนที่พวกเขาได้มันมาด้วยซ้ำ” กล่าวโดย Panos

ดูเหมือนการสนทนาเรื่องฟองสบู่ของ Bitcoin นั้นจะเป็นเรื่องที่หลายๆคนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษในปีนี้

ความเห็นต่างๆนานา

ความเห็นแต่ละคนนั้นก็แตกต่างกันไป อย่างเช่นนาย Vinny Lingham ที่กล่าวว่ามีเพียงแค่การเติบโตของราคาที่สูงกว่า 3,000 ดอลลาร์จะส่งผลให้ Bitcoin นั้นเริ่มอันตรายที่จะเล่นด้วย

ในขณะที่บางคนนั้นก็ยังมองว่าสถานการณ์นั้นยังเป็นบวก โดยคาดเดาถึงแพทเทิร์นของราคาแบบตกและขึ้น ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่เกิดมาตั้งแต่เมื่อปี 2013 โดยราคามันจะตกก่อน ก่อนที่จะพุ่งไปหาจุดที่สูงกว่า

โดย Forbes นั้นกล่าวว่า ณ ตอนนี้การ “โหมข่าว” ของนักลงทุนได้เกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่ปรากฏการณ์ทอล์คออฟเดอะทาวน์และการแห่กันไปซื้อของประชาชนทั่วโลก (Mania) ยังไม่เกิดขึ้น

“ณ ตอนนี้ยังมีบางอย่างที่ช่วยให้เกิด Mania ที่กำลังขาดไป คือจะเริ่มแรกจะมีการกระโดดเข้ามาของผู้บุกเบิก หลังจากนั้นก็จะมีผู้ที่เริ่มปรับตัวเร็ว ตามมาด้วยผู้คนทั่วไป และก็มาอีกเรื่อยๆตามทฤษฎีของ Rogers” อ้างอิงจากนาย Panos

กราฟทฤษฎีแสดงการปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีของผู้คนในหมวดต่างๆ หรือ Rogers Curve

“โดยหลังจากนั้นจะเป็นช่วงที่ความต้องการของ Bitcoin พุ่งขึ้นมาถึงจุดๆหนึ่งที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์ Mania โดยนักลงทุนนั้นจะรีบวิ่งเข้าไปช้อนซื้อ Bitcoin เพราะมองเห็นว่าราคามันดี มากกว่าที่จะโฟกัสไปที่ประโยชน์ของมัน”