<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บทความ: Altcoins ตัวใหม่จะสามารถเทียบเท่า Altcoins ในปัจจุบันได้หรือไม่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

โลกคริปโตนอกจากเหรียญราชาอย่าง Bitcoin ก็มีเหรียญ Altcoin ออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหรียญดัง ๆ ได้แก่ Ethereum, Ripple, Bitcoin Cash และอื่น ๆ โดยเหรียญ   Altcoin ในปัจจุบันนั้นมีจำนวนประมาณ 1,700 กว่าเหรียญแล้ว

และในอนาคตแน่นอนว่าต้องมี Altcoin กำเนิดออกมาอีกอย่างมากมายแน่นอน แต่คำถามก็คือ ทำอย่างไร Altcoin เหล่านี้จะสามารถเป็นที่รู้จัก หรือไต่ระดับขึ้นมาอยู่ใน 100 อันดับบน Coinmarketcap ได้

ทีมงานทำเหรียญ

แน่นอนว่าการที่คนจะสนใจในตัวเหรียญในแต่ละเหรียญนั้น ขึ้นอยู่กับทีมงานและที่ปรึกษา (Advisor) ที่ทำเหรียญนั่นเอง เช่นเหรียญ Edenchain ที่มีทีมที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ด้าน IT ด้านการเงิน หรือนักพัฒนาธุรกิจ หรือเคยทำงานในธุรกิจด้านเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ที่คนส่วนมากรู้จัก

แต่เราไม่สามารถดูแค่ทีมงานที่อยู่บนหน้าเว็บไซต์ได้ เพราะเหรียญหรือ ICO เหล่านั้นอาจสร้าง Profile ปลอมก็เป็นได้ นักลงทุนอาจต้องตรวจสอบดี ๆ ก็ที่จะทำการลงทุนนั่นเอง

ฟีเจอร์การใช้งาน

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]ในช่วงที่ Bitcoin กำลังโด่งดัง ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีเหรียญหรือ Altcoin ออกมาเสียเท่าไร และสิ่งที่ทำให้ Bitcoin เป็นที่สนใจก็คือฟีเจอร์การโอนเงินหรือการทำธุรกรรมที่เร็วและปลอดภัยเพราะมันอยู่บนระบบ Blockchain

ปัจจุบัน Altcoin ที่ออกมานั้นก็จะมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันออกไป โดยอาจเคลมว่าโอนเงินเร็วกว่า Bitcoin กี่ xxx เท่า หรือขายความเป็นส่วนตัวอย่างเหรียญ Monero และ Zcoin นั่นเอง ถ้า Altcoin ที่ออกใหม่อาจจะต้องมีฟีเจอร์ที่มาสามารถมาฆ่า Bitcoin ได้นั่นเอง

กระแส

เรื่องที่สำคัญที่จะทำให้เหรียญตัวนั้นดังหรือไม่ดัง ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับ Influencer หรือมีกระแสคนพูดถึงหรือไม่ ตามที่เราเห็นกันก็คือนาย John McAfee ที่จะคอยออกมาเชียร์เหรียญที่น่าสนใจ โดยเขาเคยเปิดเผยว่าเขาคิดค่าโปรโมท Cryptocurrency ที่น่าสนใจผ่านทวิตเตอร์ครั้งละ 105,000 ดอลลาร์

ล่าสุดนาย McAfee ถูกลอบทำร้ายถึงกับเข้าโรงพยาบาล และกล่าวว่า “จะไม่โปรโมทหรือร่วมงานกับ ICO อีกต่อไป” หลังถูกก.ล.ต. ข่มขู่

สรุป

สุดท้ายการที่ตัวเหรียญนั้นจะโด่งดังหรือเป็นที่น่าสนใจได้ ก็ต้องอยู่ที่พื้นฐานของเหรียญนั้น ทีมงาน การทำการตลาด และสามารถสร้างความไว้ใจในกับนักลงทุนได้หรือไม่นั่นเอง

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น