<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

DSI ออกหนังสือเตือน “Blockmine เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่” อาจถูกปราบปราม

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แม้ว่ากระแส cryptocurrency และ Bitcoin นั้นจะเริ่มซาลงไปได้ไม่นาน ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากราคาของเหรียญหลาย ๆ เหรียญที่ตกลงอย่างรุนแรงในปีนี้ แต่ดูเหมือนว่ายังมีธุรกิจบางธุรกิจที่กำลังพยายามสวนกระแสด้วยการดำเนินธุรกิจที่อาจเข้าข่ายการเป็นแชร์ลูกโซ่ ซึ่ง Blockmine ก็ตกอยู่ในรูปแบบดังกล่าวด้วย

โดยอ้างอิงจากเฟซบุ๊กของ Crypto Thailand ที่ได้โพสภาพหนังสือรายงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษแห่งประเทศไทย (DSI) ถึงผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระบุรีโดยมีหัวข้อว่า “รายงานการเฝ้าระวังการลงทุนที่อาจเข้าข่ายอันมีลักษณะการเป็นแชร์ลูกโซ่ (Blockmine)” นั้น ได้มีการกล่าวถึงการดำเนินธุรกิจของบริษัทสัญชาติอังกฤษ Blockmine ที่ “มีรูปแบบของการชักชวนให้ประชาชนลงทุนในลักษณะที่อาจเข้าข่ายเป็นการระดมทุนอันมีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่”

รายงานยังได้เผยถึงวิธีการลงทุน โดยผู้ลงทุนจะต้อง สมัครสมาชิกตามที่บริษัทกำหนดโดยการซื้อแพ็คเก็จการลงทุนขั้นต่ำ 100 เหรียญ (อัตราแลกเปลี่ยนเหรียญละ 37 บาท) แต่จะต้องซื้อ Bitcoin เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน ก่อนที่จะทำการโอนไปยัง wallet ของ Blockmine

“ภายหลังจากนั้นผู้ลงทุนจะต้องทำการกดเข้าไปดูโฆษณาของ Blockmine ในหน้าแอคเคาท์ที่ตัวเองด้สมัครไว้ขั้นต่ำวันละ 8 โฆษณา โดย 1 แพ็คเก็จจะได้รับผลตอบแทนตามจำนวนที่เข้าไปคลิกดูโฆษณาในแต่ละวัน และจะมีการโอนค่าตอบแทนจากระบบให้เป็นรายสัปดาห์ จำนวน 16-22 สัปดาห์ รวมค่าตอบแทนที่ได้เป็นจำนวน 50% ของการลงทุนในแต่ละแพ็คเก็จ”

และที่สำคัญคือ

“หากผู้ลงทุนหาสมาชิกมาต่อท้ายตนเองจะได้รับค่าตอบแทนในอันดับที่ได้ทำการชักชวนอันดับที่ 3 จะได้โบนัส 20% และหากสมาชิกได้หาสมาชิกต่อไปอีกเป็นทอด ๆ ก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นทอด ๆ ไปอีก 2% ตลอดสายการแนะนำ เมื่อได้เหรียญจากการลงทุนมาแล้วต้องนำเหรียญมาขายให้กับผู้สนใจการลงทุนรายใหม่ต่อไป หรือขายให้กับแอดมินในระบบ ซึ่งในระยะแรกอ้างว่าจะซื้อคืนในราคาเหรียญละ 33 บาท”

รายงานยังเผยว่าก่อนหน้านี้มีผู้เข้าไปร่วมสมัครและลงทุนเป็นจำนวนถึง 27,000 รายภายในปีนี้ปีเดียว แม้ว่าจะไม่ได้เผยว่าในจำนวนดังกล่าวนั้นเป็นชาวไทยทั้งหมดหรือไม่ แต่ทาง DSI กล่าวว่า “ขณะนี้ได้เริ่มมีสัญญาณว่าจะเกิดปัญหา เนื่องจากได้มีการสร้างขั้นตอนในการถอนเงินของผู้ลงทุนให้ยากมากขึ้น เว็บไซต์เริ่มมีการปิดระบบเป็นระยะ ๆ มีการอ้างว่าการถอนเงินของผู้ลงทุนต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอีกมาก” นอกจากนี้ยังลดราคาซื้อคืนลงเหลือ 23 บาทจาก 33 บาทอีกด้วย

เมื่อไม่นานมานี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการเข้าจับกุม “แกงค์หลอกลงทุน Bitcoin” ของตำรวจจังหวัดชลบุรี โดยมีเหยื่อที่ถูกหลอกให้ไปลงทุนในสกุลเงินคริปโต Bitcoin และสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนอย่างดีงาม จนภายหลังก็ปิดตัวบริษัทและยักยอกเงินหนีไป โดยรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

ภาพจาก TrueLife

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น