<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO Bitkub กล่าว “Bitcoin คือทองดิจิทัล และไม่สนใจ Dragon Coin เพราะข้องเกี่ยวคาสิโน”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานข่าวการเข้าจับกุมนายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม ข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน” และดูเหมือนว่าคดีนี้ มีทั้งบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่าง DNA ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงคนดังในวงการตลาดหุ้นอย่าง นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ

ล่าสุดวันที่ 20 สิงหาคม 2018 ช่อง Nation TV ได้เชิญ CEO ของเว็บเทรดคริปโตในไทยนาม Bitkub คุณต้น สกลกรย์ สระกวี ไปออกรายการ “คม ชัด ลึก” เพื่อมาคุยในหัวข้อ “เปิดโปง! กลโกง ฟอกเงิน บิทคอยน์

โดยคุณต้นได้ให้ความคิดเห็นถึง Bitcoin คืออะไร ในนาทีที่ 3:21 ว่า:

“Bitcoin คือทอง ทองดิจิทัลหรือ Digital Asset หรือสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนั้นการลงทุน Bitcoin คือการซื้อทอง คือทองคำมูลค่าสูง แต่เป็นทองคำในรูปแบบดิจิทัล”

หลังจากนั้นทางพิธีกรก็ได้สอบถามถึงการซื้อ Bitcoin และความเสี่ยงในการซื้อมีอะไรบ้าง รวมถึงช่องโหว่ของมันคืออะไร โดยคุณต้นได้แสดงความคิดเห็นในนาทีที่ 20:23 ดังนี้:

“อย่างแรกเลย ถ้าเราซื้อผ่าน Exchange เราต้องทำการยืนยันตัวตนหรือ KYC โดยอ้างอิงจากข่าว Dragon Coin ทางนั้นได้ทำการถอนเงินผ่าน Exchange แต่ถ้าเราไปซื้อขายนอกตลาด เราไม่มีทางจับมันได้ และก็จะมีการโกงเกิดขึ้น และถ้าถามว่าช่องโหว่ของมันคืออะไร ข้อเสียของ Bitcoin ก็คือถ้าเหล่าอาชญากรเอาไปใช้ มันอาจจะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการหลบหนีการจับกุมหรือ Transaction ได้”

Dragon Coin

ทางพิธีกรได้สอบถามถึงดคีที่เพิ่งผ่านมาเกี่ยวกับ Dragon Coin โดยคุณต้นได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า:

“จริงแล้วไม่ได้ผิดที่ตัว Bitcoin เหมือนตัว Bitcoin เป็นแพะรับบาป จริงแล้ว Bitcoin เป็นเครื่องมือในการโอนเงินเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมมี Bitcoin แต่ไม่อยากแลกมาเป็นเงินบาท ผมก็แค่โอน Bitcoin ให้ทางพิธีกรก็แค่นั้นเอง ไม่ได้เอา Bitcoin ไปโกง แต่ในคดี Dragon Coin เค้าเอา Bitcoin ไปให้กับกลุ่มคุณปริญญา และกลุ่มของคุณปริญญาก็มีคนที่เป็น CEO ของ Dragon Coin ผมก็เลยงงว่าทำไมไม่เอา Bitcoin ไปเปลี่ยนเป็น Dragon Coin ซะ เรื่องมันก็จะจบ”

นอกจากนี้ในนาทีที่ 30:50 ทางพิธีกรได้ถามคุณต้นว่ารู้จักหรือมีใครชักชวนลงทุน Dragon Coin หรือไม่ โดยคุณต้นได้กล่าวว่า:

“ไม่ได้ชวนครับ แต่ผมเห็นแล้วว่ามันอาจไม่น่าสนใจเพราะมันเกี่ยวกับเรื่องคาสิโน ที่ทางมาเก๊า ก็เลยไม่ได้สนใจ โดยเจ้าของ Dragon Coin ไปโด่งดังที่ต่างประเทศเพราะว่าทางนั้นเคลมว่า บริษัทที่มาเป็น Backup ให้นั้น คือบริษัทที่ทำเกี่ยวกับธุรกิจคาสิโน และวิธีการใช้เหรียญก็คือเอาเหรียญนี้ไปเล่นคาสิโนที่มาเก๊า เมื่อเล่นเสร็จแล้วก็เอาเหรียญ Dragon Coin ไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทหรือดอลลาร์ ถ้ามองแบบนี้แล้วนั้นก็เหมือนการฟอกเงินนั่นแหละ”

โดยคุณต้นได้ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับการระดมทุนของ Dragon Coin ว่า:

“ผมแปลกใจว่าการระดมทุน ICO ทั่ว ๆ ไปแล้วนั้นจะมี Address ของแต่ละโปรเจกต์แสดง แต่ของ Dragon Coin ไม่มี Address มีแต่หน้าเว็บไซต์ที่ระบุว่ามีคนซื้อเหรียญแล้วทั้งหมด 400 ล้านดอลลาร์ โดยที่ผมไม่สามารถรู้ได้ว่ามันลงทุนไปแล้วจริงหรือไม่”

การปั่นหุ้น

ทางพิธีกรได้ถามถึงการปั่นราคาเหรียญมันเหมือนกับการปั่นหุ้นไหมทางคุณต้นได้ให้ความคิดเห็นดังนี้:

“ถ้าบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ออกเหรียญ ICO และ ICO เหล่านั้นสามารถที่จะสร้างมูลค่าและมันจะทำให้หุ้นเหล่านั้นขึ้นได้ แต่ผมไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นการปั่นหุ้นหรือเปล่า แต่ถ้าเหรียญ ๆ นั้น ออกโดยบริษัทมหาชนประสบความสำเร็จ ผมเชื่อว่าราคาหุ้นของตัวแม่ก็จะสูงขึ้นแน่นอน”

 

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น