ซีอีโอและผู้ก่อตั้งตลาดคริปโต eToro เผยว่าบริษัทกำลังจะเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับ Ripple
Yoni Assia กล่าวว่าเขาได้พบกับ Brad Garlinghouse ซีอีโอของบริษัท Ripple ที่การประชุม Paris Fintech Forum และได้มีการพูดคุยว่าบริษัทของพวกเรานั้นจะร่วมมือกันได้อย่างไร
“ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่บริษัท fintech จะสร้างความสัมพันธ์กับบริษัท fintech อื่น ๆ ซึ่งพวกเราก็เป็นหนึ่งใน trading platform ที่ใหญ่ที่สุดด้วย จึงมีความสนใจอย่างมากที่จะสร้างความสัมพันธ์กับ Ripple Labs และมาทำความเข้าใจกันว่าเราจะร่วมดำเนินธุรกิจกันได้อย่างไร”
ตอนนี้ Ripple ได้เข้าเป็นหุ้นส่วนกับตลาดคริปโต Bittrex, Coins.ph, Bitso และ Bitstamp เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัว platform จะช่วยผลักดัน xRapid ที่มีส่วนช่วยในเรื่องการชำระเงินข้ามพรมแดนของ Ripple ทำให้สามารถใช้ XRP เคลื่อนย้ายเงินข้ามพรมแดนได้ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ Changpeng Zhao ซีอีโอของ Binance กล่าวว่าเขาก็อยากเป็นหุ้นส่วนกับ Ripple และ xRapid ด้วยเช่นกัน
Zhao กล่าวว่า
“ในตอนนี้พวกเรากำลังดูอยู่ว่าจะเพิ่ม feature ไหนลงไปได้อีก ดังนั้นพวกเราจึงทำงานกับหุ้นส่วนหลาย ๆ คน พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรในส่วนของ xRapid แต่พวกเราจะร่วมเป็นหุ้นส่วนกันในอนาคตอย่างแน่นอน”
เมื่อพิจารณาถึงอนาคตทางการเงินโดยละเอียดแล้ว Assia เชื่อว่าสินทรัพย์ทุกชนิดบนโลกนี้จะถูกตีมูลค่าเป็นเหรียญ ทำให้คนสามารถถ่ายโอนสินทรัพย์ของคนได้ในทันที
“ผมเชื่อว่า fintech โดยเฉพาะ blockchain จะมีผลต่อการบริการทางการเงินและอุตสาหกรรมการจดการสินทรัพย์เนื่องจากสินทรัพย์ทุกประเภทบนโลกนี้จะถูกตีมูลค่าเป็นเหรียญ เพราะฉะนั้นแล้วสินทรัพย์เหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ดิจิตอลซึ่งสามารถถูกถ่ายโอนไปได้ทั่วโลก ซึ่งก็หมายความว่าพวกเรากำลังสร้างระบบใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการจัดการสินทรัพย์ทั้งหลายอยู่ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมธุรกิจ fintech startup และบริษัทต่าง ๆ ที่สามารถบริหารสินทรัพย์บล็อกเชนได้
ในปัจจุบันนี้เมื่อเราซื้อสินทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งในธนาคาร เราจะถ่ายโอนสินทรัพย์ตัวนั้นได้ยาก เพราะฉะนั้นแล้วถ้าสิ่งนั้นเป็นการจำนอง หุ้น หรือหุ้นกู้ มันจะไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้ว หรือจะกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่าเราก็จะไม่สามารถบอกกับธนาคารได้ว่า “เอาหุ้น Apple ของฉันมาให้ฉันหน่อย” แต่สามารถบอกว่า “ช่วยโอนหุ้นไปอีกสถาบันการเงินอีกสถาบันหนึ่งหน่อย” ความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนในสินทรัพย์ที่ได้รับการตีมูลค่าเป็นเหรียญก็คือว่าเราสามารถโอนสินทรัพย์เหล่านั้นไปยัง wallet ของเราได้ซึ่งก็หมายความว่าจะเกิดความรวดเร็วมากขึ้น เราสามารถโอนสินทรัพย์เหล่านั้นภายใน 1 วันหรือ ณ ตอนนั้นเลยก็ได้ ทำให้ผู้คนสามารถย้ายสินทรัพย์จากบริษัทหนึ่งไปอีกบริษัทหนึ่งเพื่อขายในตอนนั้นเลยก็ได้”
eToro เป็น trading และ investment platform ที่ก่อตั้งในปี 2550 โดยให้ผู้ใช้ต่าง ๆ สามารถซื้อขายคริปโตเคอเรนซี สกุลเงินของรัฐบาล สินค้า ดัชนี และหุ้น ซึ่ง eToro ได้ทำระบบการซื้อขาย bitcoin ในปี 2556 ผ่านทางการซื้อขายอนุพันธ์ (CFDs) และ Ethereum, XRP, Litecoin และคริปโตเคอเรนซีตัวอื่น ๆ ตามมา นอกจากนี้ eToro ยังให้ผู้ใช้สามารถดูและเลียนแบบการซื้อขายของผู้ใช้รายอื่นด้วย โดย platform ได้เผยว่าปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 9 ล้านรายในกวา 140 ประเทศ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น