<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รายงานจาก Binance กล่าวว่า “Ripple เป็นเหรียญสำหรับกระจายความเสี่ยงที่ดีที่สุด”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

งานวิจัยจาก Binance Research ฉบับล่าสุดเผยให้เห็นถึงความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างเหรียญคริปโตหลาย ๆ เหรียญ ที่ในท้ายสุดมีการสรุปว่าเหรียญ XRP ของ Ripple นั้นมีความสามารถในการกระจายความเสี่ยงให้กับนักลงทุนมากที่สุด ทว่าในขณะเดียวกัน การกระจายความเสี่ยงนั้นก็ไม่ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าประสบความสำเร็จเสมอไป หากเทียบกับสภาพของตลาดที่ผ่าน ๆ มา

XRP เหรียญเพื่อการกระจายความเสี่ยง

ทาง Binance Reseach ได้เผยถึงรายงานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ได้เผยถึงความเกี่ยวข้องกันระหว่างเหรียญคริปโตประเภทต่าง ๆ

โดยได้สรุปว่าเหรียญอันดับต้น ๆ อย่างเช่น Bitcoin และ Ethereum นั้นมี ‘cluster’ หรือความเชื่อมโยงที่มากที่สุด ซึ่งความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงในด้านบวกนี้หมายความว่าราคาของ Bitcoin และ Ethereum นั้นมักจะไปด้วยกันเสมอ

ในขณะเดียวกัน เหรียญ XRP นั้นเผยให้เห็นว่ามันแทบจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ Bitcoin และ Ethereum เลย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มันได้รับตำแหน่ง ‘เหรียญสำหรับการกระจายความเสี่ยงที่ดีที่สุด ที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์’

รายงานก่อนหน้านี้เผยให้เห็นถึงความเสี่ยงในการกระจายความเสี่ยงในตลาด cryptocurrency แต่อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการเลือกกระจายความเสี่ยงไปที่เหรียญ Altcoin และ XRP นั้นอาจไม่ถือเป็นกลยุทธ์ที่ปลอดภัยที่สุดเสมอไป เนื่องจากว่าพฤติกรรมของตลาดคริปโตนั้นมักจะมีความผันผวนสูง

แต่ในขณะเดียวกัน รายงานจาก Binance ยังเผยให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องกันระหว่างเหรียญคริปโตต่าง ๆ ซึ่งหลัก ๆ นั้นประกอบไปด้วย

  • Bitcoin Gold
  • Bitcoin Cash
  • Ethereum Classic
  • Litecoin

ส่วนเหรียญอื่น ๆ นั้นก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แบบพิเศษ อย่างเช่นการไม่ได้รับการลิสต์ขึ้นบนกระดานซื้อขาย อย่างเช่นเหตุการณ์ล่าสุดที่ Bitcoin SV ถูกถอดถอนออกจาก Binance จนทำให้ราคาร่วงอย่างรุนแรง

รวมถึงตัวอย่างที่น่าสนใจอย่างเช่นเหรียญ Tezos และ Dogecoin ที่ไม่ได้ถูกลิสต์บน Binance ทำให้สองเหรียญนี้สร้าง ‘cluster’ หรือความอิสระแยกออกมา ส่วนเหรียญบางเหรียญที่ถูกลิสต์บน Coinbase นั้นก็ตกอยู่ในสถารการณ์ที่คล้าย ๆ กัน

Cluster

นักวิเคราะห์จาก Binance ได้ทำการวิจัยเหรียญคริปโต 30 อันดับแรกบนกระดาน Coinmarketcap ทว่าเหรียญ stablecoin นั้นถูกถอดออกมาจากกลุ่มตัวอย่างงานวิจัย รวมถึงเหรียญอื่น ๆ ที่มีสินทรัพย์อื่น ๆ มาหนุนหลังไว้อีกด้วย

ภายหลังจากนั้นได้มีการนำเอาค่าเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าตลาดรวมในช่วง 30 วันมาใช้กับเหรียญเหล่านี้ โดยจำนวนวันที่ทดสอบนั้นคือวันที่ 31 มีนาคม 2018 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2019

ตัวเลขบนกราฟด้านล่างนี้เผยให้เห็นถึงค่าเมทริกซ์ของความเกี่ยวข้องกันของเหรียญต่าง ๆ

นอกจากนี้งานวิจัยยังเผยว่าเหรียญ privacy อย่างเช่น Dash และ Monero นั้นก็มีการก่อตัวของ cluster ขึ้นมาด้วยเช่นกัน

ทว่าในช่วงท้ายของงานวิจัยนั้น พวกเขาก็ได้เขียนคำเตือนเอาไว้ว่า

“ในขณะเดียวกัน การทำการทดสอบ K-Means clustering ในแง่ของอัตราผลตอบแทนและความเสี่ยงต่อเหรียญคริปโตแต่ละตัวนั้นไม่ได้ส่งผลลัพธ์ใด ๆ ที่สำคัญมากนัก โดยหนึ่งในคำอธิบายก็คือผลตอบแทน และความผันผวนนั้นไม่มีความเกี่ยวของกันกับการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงที่มีการทำการวิจัยนี้”

ทีมงานของ Binance กล่าวว่าค่าความเชื่อมโยงกันระหว่างเหรียญแต่ละเหรียญในตลาดนั้นได้เพิ่มมากขึ้น “ซึ่งอาจเป็นเพราะการเพิ่มขึ้นของโวลลุ่มของ stablecoin และรวมถึงการเพิ่มขึ้นของคู่เทรดในตลาดคริปโตอีกด้วย”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น