สาเหตุที่ราคาของ Bitcoin จะต้องลงไปที่ 8,000 ดอลลาร์ก่อน ถึงจะสามารถทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ได้

บทความวิเคราะห์ราคารายสัปดาห์นี้เป็นของ Bitman ซึ่งเป็น Partner กับสยามบล็อกเชน สำหรับงานวิเคราะห์ราคารายวันสามารถกดดูที่เพจของ Bitman ได้ที่นี่

ราคาของ Bitcoin ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 10,000 ดอลลาร์ อีกครั้งหลังจากมีการรีบาวน์ขึ้นไปในสัปดาห์ที่แล้ว
โดยปัจจุบัน Bitcoin มี Market cap. อยู่ที่ประมาณ 170,336,704,992 ดอลลาร์ และ มูลค่ารวมของตลาด Cryptocurrency อยู่ที่ประมาณ 264,538,241,076 ดอลลาร์
ซึ่งตัวเลขมูลค่ารวม Bitcoin และมูลค่ารวมของตลาดได้ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว
โดยเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้มีข่าวที่หลากหลายในวงการคริปโตเกิดขึ้นมากมาย เช่น

• อัตราแรงขุดของ Bitcoin ทำลายสถิติเก่าของปี 2017 แล้ว
• ตลาด Bitcoin ฟิวเจอร์ส Bakkt เริ่มเปิดให้ผู้ใช้งานทดสอบแล้ว นักลงทุนคาดอาจดึงโวลลุ่มมหาศาล
• สรรพากรสหรัฐฯเริ่มส่งจดหมาย ‘เตือน’ ไปให้ผู้ถือ Cryptocurrency ในประเทศแล้ว
• แพลตฟอร์ม Bitcoin ฟิวเจอร์ Bakkt ที่ทุกคนรอคอยกำลังเผชิญกับปัญหาครั้งใหญ่
• รัฐบาลอิหร่านประกาศให้การขุด Bitcoin นั้นถูกกฎหมายในประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว

Time Frame 1D

หลังจากที่ราคามีการแกว่งตัวอยู่ในระดับ 10,000 ดอลลาร์ ในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และยังคงเป็นการแกว่งอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม แต่ในสัปดาห์นี้ราคาได้มีการปรับตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 10,000 ดอลลาร์อีกครั้ง และในส่วนของ Price action ก็แสดงให้เห็นถึงการเบรคลงมาต่ำกว่ากรอบสามเหลี่ยมแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแรงของราคาในแนวโน้มขาขึ้น และการเบรคกรอบสามเหลี่ยมลงมายังบ่งบอกถึงโอกาสในการปรับตัวลงไปต่อที่บริเวณโซนแนวรับระยะกลางที่ 9,100 – 8,000 ดอลลาร์ โดยประมาณ 

Time Frame 4H

ในระยะสั้นหลังจากที่ราคาได้มีการเบรคโซนแนวรับระยะสั้นลงไป และมีการกลับขึ้นมาทดสอบในสัปดาห์ที่แล้ว ในสัปดาห์นี้ราคาได้มีการปรับตัวลงมาอีกครั้ง เป็นการคอนเฟิร์มการเปลี่ยนโซนแนวรับเป็นโซนแนวต้านระยะสั้นที่ 10,800 – 10,350 ดอลลาร์ โดยประมาณ นอกจากนี้ การตัดลงมาต่ำกว่าดเส้น EMA200 ของเส้น EMA50 และ EMA100 บ่งบอกถึงความอ่อนแรงของแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น และบ่งบอกการเพิ่มขึ้นของโมเมนตัมในฝั่งของแนวโน้มขาลงในระยะสั้น ซึ่งมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงไปต่อได้อีกในระยะใกล้นี้

Time Frame 1W

ในภาพรวมระยะยาว ราคาเริ่มแสดงความอ่อนแรงของแนวโน้มขาขึ้นให้เห็นชัดขึ้น จากการปรับตัวลงมาในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปปิดเหนือระดับ 10,000 ดอลลาร์ได้เหมือนสัปดาห์ที่แล้ว จะทำให้ในสัปดาห์หน้า ราคาจะมี Potential ที่จะปรับตัวลงไปต่อมากกว่าที่จะกลับขึ้นไป โดยมีโอกาสที่จะไปลงต่อที่กรอบ Correction zone ที่บริเวณ 8,800 – 7,400 ดอลลาร์ โดยประมาณ

อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงมาในกรอบ Correction zone ในภาพรวมระยะยาวนั้น อาจจะยังไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม เพียงแต่เป็นการปรับฐานเพื่อไปต่อในแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว แต่ถ้าหากราคาลงมาต่ำกว่ากรอบ Correction โซนจึงจะถือว่ามีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในระยะยาว 

Indicator Signal Time Frame 1D

โมเมนตัมของภาพรวมระยะกลางนั้นเริ่มแสดงให้เห็นถึงการก่อตัวของโมเมนตัมในฝั่ง Bearish จากทั้ง MACD และ RSI รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของราคา ในการทำ Lower High และ Lower low นั้น บ่งบอกได้ว่า ในระยะกลางราคามีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงแนวโน้มและปรับตัวลงไปต่อ ซึ่งบ่งบอกถึงโอกาสในการเกิด Correction ใน TF 1W นั้นมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น 

ความเดิมสัปดาห์ที่แล้ว

จากการคาดการณ์สัปดาห์ที่แล้ว “ราคามีโอกาสแกว่งตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมโดยมีช่วงสวิงราคาอยู่ที่ 12,000 – 9,500 ดอลลาร์ โดยมีโซนแนวต้านอยู่ที่ 10,800 – 10,350 ดอลลาร์ และยังมีโอกาสปรับตัวลงต่อจากการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ใน TF 1D ”

โดยในสัปดาห์นี้หลังจากที่ราคาทรงตัวอยู่บริเวณแนวรับของกรอบสามเหลี่ยม ก็ได้มีการเบรคลงมาเล็กน้อยแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการปรับตัวลงไปต่อของราคา 

การคาดการณ์

มุมมองขาขึ้น : 

มีโซนแนวต้านระยะสั้นของราคาอยู่ที่ 10,350 – 10,800 ดอลลาร์ ซึ่งหากราคาจะปรับตัวขึ้นไปต่อจะต้องเบรคขึ้นไปเหนือโซนแนวต้านนี้ให้ได้ แต่ถ้าหากยังอยู่ต่ำกว่าโซนแนวต้านนี้จะทำให้ Potential ในการปรับตัวขึ้นไปต่อนั้นหมดไป

มุมมองขาลง : 

จากการเกิดโมเมนตัมในฝั่ง Bearish จาก MACD และ RSI ใน TF 1D และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของราคาจากการทำ Lower High และ Lower low นั้นบ่งบอกได้ว่าในระยะสั้น – ระยะกลางนั้น ราคามีโอกาสเปลี่ยนแปลงแนวโน้มและปรับตัวลงไปต่อได้ โดยมีโซนแนวรับระยะกลางอยู่ที่ 9,100 – 8,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนแนวรับที่อยู่ในกรอบ Correction zone ใน TF 1W 

อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงมาในกรอบนี้จะเป็นเพียงการปรับฐานเพื่อไปต่อในแนวโน้มขาขึ้นของภาพรวมระยะยาว แต่ถ้าหากลงไปต่อกว่ากรอบ Correction zone ก็มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแนวโน้มในภาพรวมระยะยาว เนื่องจากจะกลายเป็นการปรับตัวลงมาทำ Lower low ในภาพรวมระยะยาวแทน 

หมายเหตุ : การลงทุนในตัวเหรียญ Cryptocurrency มีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนทำการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ทางสยามบล็อคเชน จะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียใดๆในทุกกรณี