ในปีนี้ อุตสาหกรรมคริปโตก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งวงการที่เคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็วและน่าตื่นเต้น เนื่องจากราคาของมันผันผวนอย่างรุนแรงทำให้นักเทรดหรือนักลงทุนมีโอกาสกอบโกยกำไรมากมาย ถึงแม้จะผ่านมาหลายปี Bitcoin ก็ยังคงเป็นเหรียญคริปโตอันดับหนึ่งในตลาดอยู่ดีไม่ว่าจะในแง่ของมูลค่าโดยรวม หรือปริมาณการเทรด ที่ถึงแม้เหรียญหน้าใหม่จะมีกระแสแรงแค่ไหนก็ไม่สามารถล้มมันได้
โดยภาพรวมแล้ว ตลาดคริปโตก็ยังถือว่าใหม่ และกำลังเติบโตอยู่เรื่อย ๆ นักเทรดคริปโตฏ็ยังคงมองหาเหรียญ Altcoins ใหม่ ๆ เพื่อลงทุนและกำไรจากมันอย่างต่อเนื่อง เช่นเหรียญที่พวกเขาคิดว่ามีความเสี่ยงต่ำ และมีโอกาสได้กำไรสูง
ตลาดคริปโตในภาพรวม
ในช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin ก็ทะยานเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าหลังจากที่ราคาของมันลงไปต่ำถึง 3,200 ดอลลาร์ในสิ้นปีที่แล้ว ถึงแม้ช่วงล่าสุด มูลค่าของ Bitcoin จะลดลงจนน่าใจหาย แต่มันก็ยังถือว่าเป็นสินทรัพย์คริปโตที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในปีนี้
ตลอดเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อุตสาหกรรมคริปโตนั้นก็ได้เห็นการพัฒนาหลายอย่าง เช่น ถึงแม้ที่ประเทศจีนจะทำการต่อต้านการเทรดคริปโตเสมอมา แต่ผู้มีอำนาจหลายคนยังคงสนับสนุน Bitcoin อยู่
ในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ได้มีหนังสือพิมพ์ระดับประเทศของจีนตีพิมพ์ว่า Bitcoin เป็นหนึ่งในการใช้งานเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จที่สุด
ประเทศจีนเองยังแสดงความสนใจในเทคโนโลยี Distributed Ledger หรือ DLT ด้วย และ PBoC หรือธนาคารกลางของประเทศจีนนั้นก็ได้ประกาศด้วยว่า จะเปิดตัวคริปโตที่มีเงินหยวนค้ำมูลค่าไว้ในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ ซึ่งส่งผลแง่บวกต่อวงการคริปโต และการเปิดตัวนั้นอาจทำให้กระแสกลับเป็นบวกเป็นอีกครั้งได้
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสนใจคือ Samsung บริษัทอิเล็กเทรดนิกส์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก ได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม Blockchain (SDK) ในต้นเดือนที่ผ่านมาด้วย การเปิดตัวนี้ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มเห็นว่า Blockchain นั้นสามารถสร้างผลิตภัณฑ์อะไรได้บ้าง แพลตฟอร์ม SDK ของ Samsung นี้จะทำให้นักพัฒนาต่าง ๆ สามารถสร้างแอปฯ และทำกธุรกรรมบนเทคโนโลยีได้นั่นเอง
เป็นที่รู้กันดีว่า ประเทศมหาอำนาจอีกเจ้าอย่างสหรัฐฯ นั้นได้ตรวจตราและออกกฎหมายมาควบคุมตีกรอบวงการคริปโตได้หลายปีแล้ว มีนักวิเคราะห์มากมายได้ออกมาชี้ว่า SEC หรือกลต. ของสหรัฐฯ นั้นมีท่าทีค่อนข้างต่อต้านริปโต
ในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางของสหรัฐฯ ได้ประกาศหาผู้จัดการของตำแหน่งที่ทำการวิจัยนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล, Stable Coins และเทคโนโลยี Distributed Ledger
การประกาศนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ออกกฎหมายในสหรัฐฯ นั้นเริ่มยอมรับคริปโตมากขึ้นแล้วว่า มันคงไม่หายตายจากไปเร็ว ๆ นี้ และจะกลายเป็นอีกส่วนที่สำคัญในเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต
จากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ จะเห็นว่าในเดือนที่ผ่านมานั้น เจ้าใหญ่ ๆ ทั้งสหรัฐฯ, จีน หรือองค์กรอย่าง Samsung นั้นได้เห็นความสำคัญของ Blockchain และเทคโนโลยีแล้ว และจะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมพื้นฐานที่ดีให้กับวงการคริปโตแน่นอน
ภาพรวมของเหรียญ 6 อันดับแรก
1. Bitcoin
เป็นเวลานานแล้วที่ Bitcoin นั้นอยู่ในตำแหน่งคริปโตอันดับหนึ่ง จากการที่มันเป็นคริปโตเหรียญแรกจนทำให้เหรียญอื่น ๆ กำเนิดตามมา ถึงแม้จะผ่านมา 10 ปี แต่ Bitcoin ก็ยังคงเป็นเหรียญที่ได้รับการพูดถึงอยู่ในบรรดานักลงทุนคริปโตทั้งโลก
นักลงทุนมากมายต่างพากันคาดหวังว่าราคาของ Bitcoin นั้นจะเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2020 เพราะกำลังจะมีการ Halving ในเดือนพฤษภาคมปีนั้น และอาจมีความเป็นไปได้ด้วยที่ Bitcoin ETF จะได้รับการอนุมัติจาก SEC ซึ่งจะเป็นประตูที่เปิดให้เงินจากเจ้าใหญ่ ๆ ไหลเข้ามาในวงการคริปโตมากขึ้น
อ้างอิงจาก CoinMarketCap ในขณะที่รายงานอยู่นี้ Bitcoin มีมูลค่าอยู่ที่ 7,464 ดอลลาร์ ลดลง 4.48 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณการเทรดโดยรวมอยู่ที่ 17,918 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Bitcoin มีมูลค่าโดยรวมที่ 134,928 ล้านดอลลาร์
2. Ripple
XRP นั้นเป็นเหรียญคริปโตที่ถูกเทรดมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในตอนนี้ มันเป็นเหรียญที่บริาัท Ripple สร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานในผลิตภัณฑ์อย่าง xRapid ที่เป็น Solution ให้องค์กรต่าง ๆ ใช้ XRP ในการทำธุรกรรมข้ามประเทศ
ในช่วงที่ผ่านมา ก็จะเห็นได้ว่า Ripple เริ่มจับมือกับบริษัทหรือองค์กรอื่น ๆ เพื่อขยายเครือข่ายการใช้งาน xRapid ของพวกเขา รวมทั้ง MoneyGram ด้วย
อ้างอิงจาก CoinMarketCap ในขณะที่รายงานอยู่นี้ XRP มีมูลค่าอยู่ที่ 0.223 ดอลลาร์ ลดลง 3.65 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณการเทรดโดยรวมอยู่ที่ 1,187 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา XRP มีมูลค่าโดยรวมที่ 9,694 ล้านดอลลาร์
3. Ethereum
Ethereum เป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม Smart Contract และก็มีนาย Vitalik Buterin ผู้โด่งดังในวงการคริปโตเป็นผู้ร่วมก่อตั้งด้วย ถึงแม้ Ethereum นั้นจะมีมูลค่าโดยรวมที่สูงกว่า XRP แต่ ETH นั้นก็มีปริมาณการเทรดน้อยกว่าอยู่
Ethereum นั้นมีประโยชน์มากมายจากการที่มีเทคโนโลยี Smart Contract และก็เป็นเหรียญที่มีการใช้งานจริงเยอะเป็นอันดับต้น ๆ ในโลกเลย
อ้างอิงจาก CoinMarketCap ในขณะที่รายงานอยู่นี้ Ethereum มีมูลค่าอยู่ที่ 149 ดอลลาร์ ลดลง 3.97 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณการเทรดโดยรวมอยู่ที่ 6,689 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Ethereum มีมูลค่าโดยรวมที่ 16,291 ล้านดอลลาร์
4. Tron
Tron หรือ TRX นั้นเป็นคริปโตที่ทำงานบน Blockchain ของ Tron แต่จุดแด่นของเหรียญนี้ก็คงหนีไม่พ้นนาย Justin Sun ผู้ก่อตั้ง TRX เนื่องจากเขามีความสามารถในการทำการตลาดที่โดดเด่นมากจนทำให้เหรียญ TRX ได้รับความสนใจจากทั้งวงการอย่างรวดเร็ว
นาย Sun ได้ทำการซื้อ BitTorrent และนำมันมาประสานรวมกับเครือข่ายของ TRX ด้วย โดย TRX นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแพลตฟอร์มในอุตสาหกรรมบันเทิง และเน้น Smart Contract คล้าย Ethereum
อ้างอิงจาก CoinMarketCap ในขณะที่รายงานอยู่นี้ TRX มีมูลค่าอยู่ที่ 0.0153 ดอลลาร์ ลดลง 5.78 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณการเทรดโดยรวมอยู่ที่ 1,103 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา TRX มีมูลค่าโดยรวมที่ 1,021 ล้านดอลลาร์
5. NEO
NEO เป็นเหรียญที่เป็นแพลตฟอร์ม Smart Contract เหมือนกับ Ethrereum แต่เขียนด้วยภาษาที่โปรแกรมส่วนใหญ่ใช้มากกว่า และชุมชนส่วนใหญ่อยู่ที่จีน
ถึงแม้มันจะมีมูลค่าโดยรวมไม่มากนัก แต่มันก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เรื่อย ๆ และมีปริมาณการซื้อขายที่ถือว่าเยอะ หากเทียบกับมูลค่าโดยรวมของมัน
อ้างอิงจาก CoinMarketCap ในขณะที่รายงานอยู่นี้ NEO มีมูลค่าอยู่ที่ 9.11 ดอลลาร์ ลดลง 6.21 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณการเทรดโดยรวมอยู่ที่ 363 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา NEO มีมูลค่าโดยรวมที่ 642 ล้านดอลลาร์
6. Stellar
ถึงแม้ Stellar หรือ XLM จะไม่ใช่เหรียญที่มีมูลค่าโดยรวมถึง 5 อันดับแรก แต่มันก็เป็นหนึ่งในเหรียญที่มีปริมาณการเทรดมากที่สุดในโลก เครือข่ายของ Stellar นั้นเป็นระบบนิเวศน์ที่รองรับการทำธุรกรรมจากคริปโตเป็นเงิน Fiat โดยเป็นคู่แข่งกับ XRP
อ้างอิงจาก CoinMarketCap ในขณะที่รายงานอยู่นี้ XLM มีมูลค่าอยู่ที่ 0.057 ดอลลาร์ ลดลง 3.30 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณการเทรดโดยรวมอยู่ที่ 233 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา NEO มีมูลค่าโดยรวมที่ 1,154 ล้านดอลลาร์
สำหรับวิธีการเทรดในอุตสาหกรรมคริปโตที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลานั้น การติดตามข่าวสารที่ถูกต้องถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมาก เช่นราคาของ Bitcoin, การประกาศของกฎหมายต่าง ๆ, การเมือง และอื่น ๆ ที่จะส่งผลต่อตลาด
ด้วยเหตุนี้เอง การศึกษาให้เข้าใจถ่องแท้ถึงเป็นเรื่องที่จำเป็นและนักลงทุนส่วนใหญ่นั้นมักไม่มีความอดทนมากพอ
ที่มา capital
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น