<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 เหตุผลที่ราคา Bitcoin จะกลายเป็นขาขึ้นครั้งใหญ่ในปี 2020 นี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในช่วงดึกของเมื่อวานนี้ราคา Bitcoin ได้ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นเหนือระดับแนวต้านสำคัญที่ระดับ 9,500 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นกว่า 30% นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นปีใหม่เป็นต้นมา อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของ Bitcoin ในช่วงตลอด 7 ปีที่ผ่านมาสำหรับไตรมาสที่ 1 นั้นดูไม่ค่อยดูดีเท่าไหร่นัก หากเมื่อสังเกตดูจากกราฟราคาในอดีต

แต่ถึงกระนั้นนักลงทุนหลายคนก็ยังคงเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว ซึ่งนี่คือปัจจัยทั้ง 3 ข้อที่ยืนยันแล้วว่าเรากำลังจะเข้าสู่ช่วง Bull run ของปีนี้

1. Bitcoin สามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ราย 200 วัน

ราคา Bitcoin สามารถเบรคทะลุเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ราย 200 วันได้สำเร็จ ซึ่งเหตุการณ์นี้สามารถพบเห็นเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น นับตั้งแต่ที่ Bitcoin ได้ถือกำเนิดขึ้นมา : ในเดือนมีนาคม 2012 , ในเดือนตุลาคม 2015 และในเดือนเมษายน 2019 โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งเหตุการ์ณทั้งสามครั้งนี้มักจะตามมาด้วยราคาที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง จนหลายคนคาดไม่ถึง

นาย Thomas Lee ผู้ก่อตั้ง Fundstrat ได้สังเกตเห็นว่า bitcoin เพิ่งเบรคทะลุเหนือเส้น MA 200 วันไปเมื่อวันที่ 27 มกราคม ซึ่งทุกครั้งที่ bitcoin อยู่เหนือเส้นดังกล่าวมันจะพุ่งขึ้นมากกว่า 80% เสมอ ดังนั้นมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกแล้วว่าเรากำลังเข้าสู่ช่วง Bull run อย่างแท้จริง

2. อัตรากำลังขุด Bitcoin พุ่งทำลายสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง

ในขณะที่ราคา Bitcoin ได้พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันอัตรากำลังขุดบนเครือข่าย bitcoin ก็ได้พุ่งทำลายสถิติแตะจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง โดยผู้ใช้ Twitter ที่ใช้นามแฝงว่า ‘The Moon’ เผยให้เห็นว่าอัตรากำลังขุดของ bitcoin นั้นพุ่งขึ้นกว่า 123 ล้านล้านแฮชต่อวินาทีแล้วในขณะนี้ ซึ่งนี่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกแล้วว่าคริปโตเคอเรนซี่เบอร์หนึ่งของโลกกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ช่วง Bull run ครั้งใหญ่ก่อนช่วง Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม

Bitcoin halving คือ การที่ระบบของ Bitcoin จะทำการลดจำนวนเหรียญที่เกิดใหม่ของ Bitcoin ต่อ 1 บล็อกต่อ 10 นาทีลงครึ่งหนึ่ง ในทุก ๆ 4 ปี เช่นปี 2008-2009 เกิดใหม่ที่ 50 BTC, จากนั้นปี 2012 ลดลงเหลือ 25 BTC และปี 2016 ลดลงเหลือ 12.5 BTC จนมาถึงในขณะนี้กำลังจะลดลงเหลือ 6.25 BTC ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ Bitcoin นั้นกลายเป็นสินทรัพย์ที่หายากมากขึ้นและมีค่ามากยิ่งขึ้นนั่นเอง

3. กระเป๋าเงิน Bitcoin ที่มีการใช้งานเพิ่มมากขึ้น

เมื่อเร็ว ๆ นี้เว็บไซต์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ‘Glassnode’ ได้ทำการรวบรวมข้อมูลจำนวนที่อยู่ กระเป๋า Bitcoin จากผู้ให้บริการทั้งหมดและพบว่านี่คือสัญญาณของการยอมรับ bitcoin ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในอดีตเมื่อที่อยู่กระเป๋าเงิน bitcoin ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมักจะตามมาด้วยราคาที่พุ่งอย่างรุนแรงเสมอ โดยเราจะสังเกตเห็นได้จากกรณีที่อยู่กระเป๋าเงินของ bitcoin ที่เพิ่มขึ้นมาในช่วงเดือนตุลาคม 2017 ก่อนที่ช่วง Bull run นั้นจะเกิดขึ้นตามมาในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ราคา bitcoin ที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 13,796 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้วยังได้สอดคล้องกับตัวเลขที่อยู่กระเป๋าเงินที่เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

ดังนั้นแล้วหากในปีนี้ Bitcoin เดินซ้ำรอยเดิมในอดีตขึ้นมาจริง ๆ ปัจจัยเหล่านี้ก็จะช่วยยืนยันได้ว่าช่วง Bull run ครั้งใหญ่กำลังจะกลับมาอีกครั้ง

ที่มา : zycrypto

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น