<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ตลาดคริปโตจะเป็นอย่างไรหลังการ Halving ของ Bitcoin ผู้ก่อตั้งเว็บเทรดในไทยมีคำตอบ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การ Halving ของ Bitcoin นั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว ทุกคนต่างให้ความสนใจในเรื่องนี้ ซึ่งก็ได้มีบทความต่างๆ ได้เผยแพร่ออกมาเกี่ยวกับการ Halving จำนวนมาก ชุมชนต่างสงสัยว่าเหตุการณ์ Halving นี้จะเข้ามาส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอย่างไรบ้าง ทางสยามบล็อกเชนนั้นก็ได้ทำการสัมภาษณ์ในประเด็นนี้ไปยังผู้เชี่ยวชาญทั้งสองท่านที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ซึ่งก็คือคุณหนึ่ง ปรมินทร์ อินโสมผู้ก่อตั้งกระดานเทรด Satang Pro และคุณท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Bitkub ด้วย

Halving คืออะไร?

ในประเด็นแรกต้องกล่าวให้รู้ก่อนว่าการ Halving นั้นคืออะไร การ Halving ก็คือการที่รางวัลที่ได้รับจากการขุดลงทุกๆ 4 ปี ดังนั้น Bitcoin ก็จะออกมาใหม่ในเรทที่น้อยลง โดยการ Halving  ของแต่ละเครือข่ายจะมีลักษณะแตกต่างกันไป 

ด้านคุณหนึ่งก็ได้อธิบายนิยามของการ Halving เอาไว้ดังนี้:

“การ Halving ของแต่ละเครือข่ายแตกต่างกันไป ของ Bitcoin ก็คือการลดรางวัลที่ได้จากการขุดลงไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะมีทุกๆ สี่ปี  ส่วน Block Reward ก็คือวิธีการปล่อยเหรียญคริปโตออกไปให้กับคนที่เกี่ยวข้องกับเน็ตเวิร์ค เช่น Bitcoin มันจะไม่มีการ pre-mined (ไม่มีการขุดก่อน) จะเป็นลักษณะของการค่อยๆ ปล่อยเหรียญออกมาทีละบล็อกให้ใครก็ได้มาแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ไปได้ก่อนก็ได้รางวัลไป [..]”

ส่วนคุณท็อปนั้นก็ได้อธิบายนิยามของการ Halving เอาไว้ว่า:

“การที่นักขุดหาโซลูชั่นของ cryptographic hash function นักขุดที่หา R value เจอก็จะได้ reward โดย reward นี้ถูกกำหนดเอาไว้ว่ามันจะถูกหารครึ่งทุกสี่ปี ตอนนี้ bitcoin เกิดมา 11 ปี รางวัลเหลือ 12.5 btc ทุกๆ สิบนาที  ซึ่งเดือนหน้าก็จะครบกำหนดการ Halving อีกรางวัล 12.5 btc ก็จะถูกหารครึ่งเหลือ 6.25 btc การ Halving ก็คือการที่บิทคอยนั้นออกมาใหม่ในเรทที่น้อยลงเรื่อยๆ ทุกสี่ปีและเป็นอะไรที่ predictable (คาดเดาได้) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำไมเราถึงต้องมี 21 ล้าน Bitcoin ในปี 2140”

อุตสาหกรรมคริปโตจะเป็นอย่างไรหลังการ Halving

ในแง่ของพัฒนาการ Halving จะเข้ามามีส่วนช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมเติบโตขึ้นหรือไม่นั้นอาจจะต้องพิจารณาว่ามีได้มีนักลงทุนเข้ามาในตลาดมากขึ้นแล้วหรือไม่ หากมีนักลงทุนเข้ามามากพอมันก็อาจจะมีส่วนทำให้ตลาดเติบโตยิ่งขึ้น ทางคุณหนึ่งก็ได้ให้สัมภาษณ์กับทางเราว่าการ Halving อาจจะไม่ได้มีผลโดยตรงแต่มีผลทางอ้อมเนื่องจากคนที่ได้เข้ามาในอุตสาหกรรมก่อนหน้านั้นได้ทำการโปรโมทผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ทำให้มีคนเข้ามาวงการมากยิ่งขึ้น ตรงนี้จะช่วยให้อุตสาหกรรมเติบโตได้

“ไม่ได้เป็นผลโดยตรงแต่เป็นผลทางอ้อม ข่าวการ Halving มาทุกๆ สี่ปีอยู่แล้ว เป็นอีกข่าวหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนหรือคนที่เห็นโอกาสนี้เข้ามา แต่สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ในระยะยาวหนึ่งปีหรือสองปีหลังจากนี้หากมีวัคซีนแล้ว ซัพพลาย Bitcoin น้อยลง คนก็ยินดีที่จะลงทุน Bitcoin มากขึ้น” 

“คนที่ถือ Bitcoin อยู่ในมือก็ต้องการให้ Bitcoin ราคาขึ้นและมีการใช้งานมากขึ้น คนเหล่านี้ก็จะไปทำ Service ต่างๆ ที่เกี่ยวกับ Bitcoin เช่น Exchange, Wallet คนก็รู้จักพูดถึง Bitcoin มากขึ้น อยากเข้ามาซื้อ เป็นหลักการตลาดตามปกติ มันจะดึงคนใหม่ๆ เข้ามาเพราะคนเก่าไปประชาสัมพันธ์แล้วดึงคนข้างนอกเข้ามา” คุณหน่ึงกล่าว

ส่วนด้านคุณท็อปมองว่าการ Halving อาจจะไม่ได้ดึงดูดกลุ่มนักลงทุนแต่ดึงกลุ่มนักเก็งกำไรมากกว่าซึ่งสองกลุ่มนี้มีความแตกต่างกัน โดยกล่าวว่า:

“มีส่วนในการดึงนักเก็งกำไร (ต่างกับนักลงทุน)” 

นอกจากนี้ทางคุณท็อปนั้นก็เห็นว่าพัฒนาการตลาด Bitcoin นั้นไม่ได้เกี่ยวกับการ Halving โดยตรง ซึ่งเขาก็ได้กล่าวว่าทุกวันนี้มีการใช้งาน Bitcoin มากขึ้น อีกทั้งวอลุ่มการเทรดและจำนวนกระเป๋าตังค์ Bitcoin ก็มากขึ้นด้วยซึ่งมันมากกว่าในช่วงที่ราคา Bitcoin พุ่งแตะ 20,000 ดอลลาร์เสียอีก โดยกล่าวว่า:

“[…]วงการนี้โตขึ้นทุกปีไม่ว่าจะเกิด Halving หรือไม่ จำนวนการเกิดกระเป๋าตังค์, การเทรด Bitcoin หรือเหรียญอื่นๆ โตขึ้นทุกปี ตอนนี้จำนวนการเทรด Bitcoin ต่อวันมากกว่าตอนที่ราคา Bitcoin ไปถึง 20,000 ดอลลาร์ (มากกว่า 4 เท่า) […]”

ราคา Bitcoin จะพุ่งหรือไม่หลังการ Halving นี้?

หากมองตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วการ Halving จะมีส่วนทำให้ราคาของ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นหรือไม่นั้นก็ต้องตอบว่ามันอาจจะมีส่วนเพราะหากลองคิดตามหลัก Demand และ Supply หรือหลักกลไกตลาด หากของในตลาดมีลดน้อยลง ราคามันก็จะเพิ่มสูงขึ้น

ด้านคุณท็อปก็อธิบายว่าหากพิจารณาตามหลักเศรษฐศาตร์มันควรจะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ต้องพิจารณาถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย โดยกล่าวว่า:

“ […] ราคา Bitcoin ก็จะขึ้นหากมองตามหลักเศรษฐศาสตร์ แต่ก็บอกยากเพราะมันมีหลายปัจจัย ทั้งโควิทและราคาน้ำมันหรือสงครามจะเข้ามามีผลกระทบหรือไม่ แต่หากมองตามหลักเศรษฐศาสตร์ราคามันต้องขึ้น ถ้าราคาขึ้นกลุ่มคนเก็งกำไรก็จะเข้ามา วงการก็จะเติบโตขึ้น”

ด้านของคุณหนึ่งนั้นก็เห็นไปในลักษณะเดียวกัน แต่ด้วยสภาพโควิท-19 ที่ระบาดอยู่อาจจะไม่ได้ทำให้ราคา Bitcoin พุ่งกว่าสองเท่าอย่างที่หลายๆ คนหวัง

คุณหนึ่ง ปรมินทร์ อินโสม

“ราคา Bitcoin มันควรจะขึ้นตามหลักเศรษฐศาสตร์ปกติ ดีมานด์มากซัพพลายน้อยลง ราคาควรขึ้น แต่ในปัจจุบันสภาพของโควิทไม่เปนแบบนั้น คนต้องการใช้เงินสดมากกว่าในการดำรงชีวิตไม่ได้เอาเงินมาลงทุนมาก สภาพเงินฝืดมัน surpass สภาพเงินเฟ้อ คนไม่มาลงทุนในบิทคอยเพราะสภาพโควิท ดังนั้นต่อให้มีการ Halving ก็ตามแต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นสองเท่าจึงเป็นไปได้ยาก”

ข้อดีและข้อเสียของการ Halving ต่ออุตสาหกรรม

การ Halving ที่จะเกิดขึ้นนั้นมันอาจจะไม่ได้มีแค่ข้อดีเพียงอย่างเดียวซึ่งตรงนี้ทางคุณหนึ่งก็มองว่ามันอาจจะส่งผลเสียต่อคนที่เข้ามาในวงการทีหลังเท่านั้น ส่วนคนที่เข้ามาในวงการแรกๆ กลับมองว่าการ Halving นั้นเป็นข้อดีเสียมากกว่า

“ผลเสียคือทำให้คนที่เข้ามาทีหลังดูเหมือนจะเสียเปรียบคนที่เข้ามาช่วงแรก เพราะคนที่เข้ามาทีหลังก็จะได้ Bitcoin น้อยกว่า คนเข้ามาใหม่ๆ จะคิดแบบนี้หมด คนที่อยู่ก่อนก็ได้ Bitcoin ไปเยอะแล้ว เพราะมันยังไม่ได้มี Halving ในช่วงแรกๆ แต่ข้อเสียตรงนี้กลับกลายเป็นข้อดีของคนที่มี Bitcoin อยู่แล้ว เพราะราคามันเพิ่มสูงขึ้น”

ด้านคุณท็อปนั้นเห็นกลางๆ ไม่ได้ส่งผลดีหรือผลเสียต่ออุตสาหกรรมเสียทีเดียว แต่อาจจะมีผลดีตรงที่ว่าดึงนักเก็งกำไรเข้ามามากขึ้น

“การ Halving เป็นเพียงกฎของ Bitcoin Blockchain ซึ่งไม่ได้มีผลดีผลเสียต่ออุตสาหกรรมอย่างไร คนใช้ Bitcoin เทรดกัน ซึ่งก็อยู่ที่ราคาด้วยถ้าราคามันขึ้นดึงนักเก็งกำไรเข้ามามันก็น่าจะเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรม”

โรคระบาด COVID-19 อาจส่งผลกระทบ?

อย่างที่ทุกคนเห็นคือในตอนนี้นั้นสภาพเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักต่อเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งมันส่งผลทำให้ตลาดดั้งเดิมและตลาดคริปโตเสียหายอย่างมาก ราคาร่วงตามๆ กันไป มันก็ทำให้เกิดคำถามที่ว่าแล้วโควิท-19 นี้มันจะมาส่งผลกระทบอะไรต่อหรือไม่ ด้านคุณท็อปนั้นก็มองว่าโรคระบาดนี้มันเป็นวิกฤตทางด้านสุขภาพ ที่ไม่ได้เกิดจากวิกฤตโครงสร้างฐานเศรษฐกิจโดยตรง หากคิดวัคซีนได้ สถานการณ์น่าจะดีขึ้น

คุณท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา

“ตอนนี้เป็นช่วงที่คนตกงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์และคนถือเงินสดกันเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน Bitcoin ตลาดลงหมด ทุกคนถือเงินสดมากขึ้น มันอยู่ที่ว่าเราหาวัคซีนเจอเร็วหรือไม่ในการแก้ไขโรคโควิทนี้

การเกิดโรคนี้มันเป็น Health Crisis ไม่ใช่วิกฤตที่เกิดจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจโดยตรง ถ้าเปิดประเทศใหม่คนก็กลับไปทำงานเหมือนเดิม

ในปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐสูบฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจจำนวนมาก มันก็มีสิทธิที่เงินจำนวนหนึ่งจะเข้ามาใน Bitcoin เพราะยิ่งมีเงินสดมากเท่าไหร่คนยิ่งกลัวเงินเฟ้อ คนจะนำเงินไปลงในทรัพย์สินอื่นๆ แต่ถ้าหากหาวัคซีนเจอคนก็จะเลิก Panic”

ชะตากรรมของนักขุด Bitcoin  

หลังจากที่มีการลดรางวัลการขุดลงแล้วนั้นนักขุดจะได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่ เพราะรางวัลที่ได้จากขุดของพวกเขานั้นจะลดน้อยลง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั้งสองท่านก็ได้ออกมาให้ข้อมูลตรงนี้ด้วยว่า

“นักขุดจะมีการคำนวณที่ไม่ให้ขาดทุนอยู่แล้ว หากมองในระยะยาวค่าความยากจะมีการปรับให้เข้าสู่จุดสมดุลอยู่แล้ว ซึ่งก็อาจไม่ได้ทำให้นักขุดขาดทุน เพราะหากขาดทุนก็จะทำให้ Bitcoin Blockchain ทำงานต่อไม่ได้เพราะนักขุดถือเป็นกระดูกสันหลัง” คุณท็อปกล่าว

ส่วนคุณหนึ่งนั้นมองว่านักขุดนั้นจะต้องมองว่าการขุดนั้นคุมทุนหรือไม่อยู่แล้ว ซึ่งมันก็ต้องแล้วแต่คน หากนักขุดบางคนขุดแล้วไม่ได้ทำการขาย Bitcoin เพราะเขามองว่าราคาจะขึ้น นักขุดประเภทนี้ก็จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากการ Halving

“Mindset ของคนขุดจะมีความคิดว่าราคาเครื่องขุดกับราคาค่าไฟฟ้าขุดแล้วได้มากกว่าราคา Bitcoin หรือเปล่า ถ้ามันไม่เยอะกว่าก็ขาดทุน คนขุดต้องคำนวณต้นทุนว่ามันคุ้มไหม แต่ก็จะมีข้อยกเว้นตรงที่คนขุดอาจจะขุดแล้วไม่ขายเหรียญเพราะเขาเชื่อว่าราคา Bitcoin จะขึ้น ซึ่งการ Halving จะไม่ส่งผลกระทบต่อคนเหล่านี้”

นอกจากนี้ทางคุณหนึ่งยังกล่าวเสริมด้วยว่าหากนักขุดออกไปจากตลาดและค่า Hash Rate ต่ำลงมันก็จะมีการปรับค่าความยากในการขุดอยู่แล้วเพื่อให้มีการผลิต Bitcoin ออกมาเท่าเดิม

“แต่หากนักขุดออกไปจากเครือข่ายการขุดคือการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ จะมี Hash Rate คือความเร็วในการแก้โจทย์ปัญหาต่อหนึ่งวินาที หากคนขุดออกไป  Hash Rate ก็จะต่ำลง ผลก็คือค่าความยากในการขุดมันจะลดลง (ซึ่งปกติจะลดทุกๆสองอาทิตย์) เพื่อปรับให้จำนวนการผลิต Bitcoin ออกมาเท่าเดิม”

ถ้าไม่มีการ Halving จะเกิดอะไรขึ้น

การ Halving นั้นมีความสำคัญอย่างไร แล้วทำไมจะต้องมีการ Halving และถ้าไม่มีการหั่นรางวัลนักขุดลงมันจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งประเด็นนี้ทางคุณหนึ่งก็ได้ตอบคำถามว่าหากไม่มีกลไกหั่นรางวัลลงครึ่งหนึ่งนี้ขึ้นมานักขุดก็จะไม่มีแรงกระตุ้นในการโปรโมท Bitcoin เพราะราคามันไม่ขึ้น

“คนที่อยู่ก่อนหน้าก็จะไม่มีแรงกระตุ้นในการโปรโมทบิทคอยเพราะไม่มีแรงจูงใจที่จะทำ เหมือนกับว่าถ้าเราไปทำงานในบริษัทใหญ่ๆ คนที่มาอยู่ก่อนและหลังก็ได้เงินเท่ากันแล้วคนที่อยู่ก่อนก็จะตั้งคำถามว่าแล้วฉันอยู่ก่อนฉันได้อะไร จะไม่มี Incentive ที่จะขยายเครือข่าย Bitcoin”

ส่วนคุณท็อปนั้นมองว่าการ Halving มีขึ้นเพื่อทำให้ราคา Bitcoin นั้นสูงขึ้นเพื่อดึงดูดให้คนมาเข้าร่วมเครือข่าย ผลักดันให้ Bitcoin เติบโตเป็นวิธีการชำระเงินในอนาคต

“เหตุผลที่มีการ Halving ก็เพื่อให้ราคามันขึ้นถ้า Bitcoin จะกลายมาเป็นสื่อกลางในการโอนเงินข้ามประเทศหรือจับจ่ายใช้สอย ราคาต้องนิ่ง ราคาจะนิ่งได้ต่อเมื่อมีฐานผู้ใช้งานจำนวนมาก Bitcoin เปรียบเสมือนสระว่ายน้ำ แล้วเหตุการณ์ต่างๆ เปรียบเสมือนคนอ้วน ถ้าคนอ้วนกระโดดลงไปในสระว่ายน้ำก็เกิด Big Splash ราคาขึ้นลงได้เพราะสระว่ายน้ำเล็ก ผู้ใช้งานยังเล็กอยู่แต่ถ้าคนเข้ามาเพราะราคามันขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายสระว่ายน้ำจะกลายเป็นมหาสมุทรไม่ว่าคนอ้วนจะกระโดดเข้ามาก็จะไม่ได้รับผลกระทบ แล้ว Bitcoin จะกลายเป็น transactional protocol ได้ แต่การจะมาถึงจุดนี้จะต้องมีพวก Halving เพื่อจูงใจให้คนเข้ามา มีฐานผู้ใช้งานมากขึ้น ถ้าเกิดไม่มีการ Halving มันก็จะไม่มีกลไกในการดึงคนเข้ามามากและรวดเร็วขนาดนั้น”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น