<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บริษัทสินทรัพย์ระดับโลก Fidelity เผยโมเดลวิเคราะห์ราคา Bitcoin ที่อาจพุ่งแตะ 1 ล้านดอลลาร์ได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บริษัทด้านการบริหารสินทรัพย์ที่มีมูลค่ากว่าล้านล้านดอลลาร์ ‘Fidelity’ กำลังพิจารณาโมเดลทำนายราคา Bitcoin ชื่อดัง Stock to Flow ซึ่งกำลังกลายเป็นที่นิยมและเป็นที่ถกเถียงกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้

รายงานล่าสุดจาก Fidelity Digital Assets พวกเขาได้วิเคราะห์อัตราส่วน stock-to-flow ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบสัดส่วนปริมาณคงเหลือของ Bitcoin ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยนำมาหารด้วยจำนวนที่ผลิตได้ในทุก ๆ ปี

จากการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างราคาของ Bitcoin เปรียบเทียบกับอัตราส่วน S2F นักวิเคราะห์ผู้ใช้นามแฝงว่า PlanB ได้คาดการณ์ว่ามูลค่าของ Bitcoin จะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2029

ในขณะที่มีการถกเถียงกันอย่างดุเดือดว่า โมเดล stock-to-flow นั่นเป็นวิธีการคาดการณ์ราคา Bitcoin ที่ถูกต้องจริง ๆ หรือไม่ ? ขณะเดียวกัน Fidelity ก็กล่าวว่าโมเดลดังกล่าวเป็นเครื่องมือที่น่าเชื่อถือสำหรับการวิเคราะห์สินทรัพย์ที่ขาดแคลนอย่างเช่น Bitcoin  บริษัทกล่าวว่าในอดีต ตัวชี้วัดนี้เป็นวิธีที่ดีในการพิจารณาว่าสินค้าที่ถูกกำหนดจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเก็บรักษามูลค่าได้จริง ๆ หรือไม่

“สินค้าโภคภัณฑ์กับหุ้นนั่นยากที่จะมีมูลค่าเพิ่มเป็นสองเท่า เนื่องจากอัตราการผลิตที่ต่ำเมื่อเทียบกับอุปทานที่มีอยู่ แต่ถึงกระนั้นมันก็ทำหน้าที่เป็นตัวเก็บรักษามูลค่าได้ดี โดยสินค้าดังกล่าวมักถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทุนและในบางครั้งก็ใช้ในเชิงอุตสาหกรรม ในทางกลับกันสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความอ่อนไหวต่ออุปทานที่เพิ่มขึ้นมากจะมีประสิทธิภาพในการเก็บรักษามูลค่าที่ลดน้อยลง”

ในหนังสือ Bitcoin Standard , ผู้เขียน Saifedean Ammous ได้ปรับใช้โมเดล stock-to-flow เพื่อเปรียบเทียบราคาระหว่าง bitcoin กับสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการลงทุนและการบริโภค โดยนับตั้งแต่นั้นมาการใช้ตัวชี้วัดนี้ก็มีการขยายตัวของราคาที่สอดคล้องตามโมเดลนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์เก็บรักษามูลค่าที่ดีที่สุดตลอดหลายยุคสมัยก็มีความสัมพันธ์กับอัตราส่วนหุ้น stock-to-flow อยู่ในจุดสูงที่สุดเช่นเดียวกัน  หลังจากที่เหตุการณ์ Halving ได้จบลงไป ในเดือนพฤษภาคม 2020 ช่องว่างระหว่างอัตราส่วน S2F ของทองคำและ Bitcoin ก็ถูกบีบอัดให้แคบลงมากขึ้นเรื่อย ๆ  โดยคาดว่าอัตราส่วน Stock-to-Flow ของ Bitcoin จะสามารถแซงทองคำได้ในที่สุด หลังจากการ Halving ในครั้งต่อไป (2024)

เช่นเดียวกับ Grayscale ที่ได้สะท้อนการประเมินของ Fidelity โดยกล่าวว่า ปกติแล้วสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีอัตราส่วน S2F อยู่ในระดับสูงมักจะเป็นที่ต้องการของนักลงทุน ยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนกำลังพิจารณา Bitcoin เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในเชิงบวกระหว่างราคาของสินทรัพย์และอัตราส่วน S2F

“ สินค้าที่มีอัตราส่วนหุ้น stock-to-flow สูงอย่างเช่น Bitcoin , ทองคำและเงินได้ถูกนำมาใช้เป็นที่สินทรัพย์เก็บรักษามูลค่าในอดีต โมเดลนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างราคาของ Bitcoin ในอดีตและอัตราส่วนไหลเวียนของหุ้นเพื่อใช้ทำนายราคาในอนาคต”

อย่างไรก็ตาม Grayscale ขอเตือนว่าโมเดลทำนายราคา S2F ไม่ได้เป็นการรับประกันว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นเสมอไป

“ในขณะที่มันอาจเป็นไปได้ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นตามโมเดล Stock-to-Flow ซึ่งมีความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับสูง แต่ความสัมพันธ์นั่นอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาและไม่ได้คำนึงถึงการแข็งค่าของราคา เมื่อมีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น”

ที่มา : dailyhodl